ผมติดตามดูการทำประชามติ BrExit วันที่ 23 มิถุนายน 2016 นี้ เรื่องที่ว่าอังกฤษจะออกหรือไม่ออกจากสหภาพยุโรป (European Union -EU) มีบทเรียนสำคัญสำหรับ คสช. และประชาชนไทยคือเรื่อง :
1. กระบวนการทำประชามติให้การศึกษาและความรู้ประชาชนตลอดอย่างน้อย 2 ปี 2. มีเสรีภาพในการถกเถียงแสดงความคิดเห็นอย่างสมบูรณ์ สำหรับประเทศไทย ที่จะทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องระบอบประชาธิปไตยทั้งระบบ ซับซ้อนยุ่งยากที่จะเข้าใจมากกว่าเรื่อง BeExit หลายเท่านัก การทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญของไทย เป็นเรื่องระบอบประชาธิปไตยทั้งระบบ: |
1. ต้องเริ่มที่การให้การศึกษาเรื่องประชาธิปไตยให้กับประชาชนทั้งประเทศก่อน
2. การให้การศึกษาเรื่องประชาธิปไตยแก่ประชาชนไทยทั้งประเทศ 70 ล้านคน จะใช้เวลามากกว่า 1 ปี ทำแบบเข้มข้นอย่างน้อย 2 ปี แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ 3. อังกฤษใช้เวลาให้การศึกษาแก่ประชาชนได้ถกเถียงเข้มข้นอย่างน้อย 2 ปี ก่อนลงประชามติ ทั้งๆที่เรื่อง BrExit แม้จะเป็นเรื่องเศรษฐกิจการเมืองที่ยากมากสำหรับชาวอังกฤษจะเข้าใจ แต่ก็ไม่ยุ่งยากและซับซ้อนเท่าเรื่องปรัชญาการเมืองการปกครองว่าด้วยความเป็นประชาธิปไตยในมาตรฐานโลกและเรื่องรัฐธรรมนูญของไทย 4. เมื่อประชาชนไทยเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยดีพอภายใน 2 ปีแล้ว ก็พร้อมที่จะเริ่มร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมตลอดกระบวนการนานอย่างน้อย 1 ปี 5. ระหว่างให้การศึกษาเรื่องประชาธิปไตย 2 ปี และร่างรัฐธรรมนูญ 1 ปี กลุ่มการเมืองที่ขัดแย้งทั้งหลายกันควรทะเลาะถกเถียงกันอย่างเข้มข้น เสรี และ สันติ จนหาจุดร่วมได้ 6. ผ่านกระบวนการปฏิรูปการเมืองเบื้องต้นขั้นโครงสร้างพื้นฐานรวม 3 ปี ตามที่อธิบายมาข้างบนแล้ว จึงได้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นฉบับประชาชนอย่างสมบูรณ์แท้จริง เพื่อการลงประชามติ 7. การลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญจะราบรื่น เต็มไปด้วยความรักความเข้าใจในปัญหาและการแก้ปัญหาที่นำไปสู่อนาคตอันสดใสงดงามของประเทศชาติ แล้วถึงวาระฉลองวันประชาธิปไตยใหม่ อันเป็นประชาธิปไตยที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนที่สมบูรณ์ได้ในปี 2563 ขออภัย...ฝันไป! .... ตื่นมาหาฝันไม่เจอ ไม่รู้สลายไปไหน? สมเกียรติ อ่อนวิมล กลางดึก 23 มิถุนายน 2559 |