THAIVISION
  • THAIVISION
  • SOMKIAT ONWIMON
    • THE DISSERTATION
    • MY STORY
    • ศิลปะในการใช้ชีวิต
    • KIAT&TAN >
      • TAN ONWIMON >
        • INTERVIEW

​ศิลปะในการใช้ชีวิต | ARTS OF LIVING
​ นิตยสาร HI-CLASS  ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 

          เมื่อปี พ.ศ. 2546 นิตยสาร HI-CLASS ได้เปิดคอลัมน์ชื่อ "ศิลปะในการใช้ชีวิต | ARTS OF LIVING" ให้ผมเป็นผู้เขียนประจำทุกเดือน บทความเรื่องแรกดังปรากฏข้างล่าง ชื่อ "เกิดมาเป็นชีวิต" จึงเป็นงานเขียนชิ้นแรกของผมในนิตยสารไฮคลาส เป็นการบอกเล่าความคิดเห็นส่วนตัวของผมต่อตัวผมเองในที่สาธารณะ ให้ผู้อื่นได้รับรู้ ซึ่งผมก็คิดว่าจะช่วยให้คนที่เข้าใจผมเป็นอย่างอื่นได้ข้อมูลใหม่และเป็นจริงในมุมมองที่ออกมาจากตัวผมเองโดยแท้ ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของท่านทั้งหลายที่อาจมองชีวิตตัวเองต่างไปจากความเป็นจริงที่ควรจะจริงแท้แน่นอนจริงๆ ชีวิตมนุษย์ย่อมเปลี่ยนแปรไปตามเส้นทางที่เลือกเดิน หรือเลือกที่จะถูกบังคับให้เดิน นั่นคือสัจธรรม. 
         กาลผ่านไป 11 ปี ถึงวันนี้ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ผมก็มิได้เปลี่ยนวิถีแห่งการดำเนินชีวิตไปเท่าใดนัก จึงเห็นว่าข้อคิดคำนึงที่เก่ากว่าทศวรรษยังคงล้าสมัยอยู่ดังเดิม จึงขอนำมาลงพิมพ์ให้อ่านกันอีกครั้งหนึ่ง ณ THAI VISION แห่งนี้ โดยไม่ปรับแก้.
Picture

เกิดมาเป็นชีวิต | BEING A LIVING

          เมื่อปี พ.ศ. 2533 ผมกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดขณะที่เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิคอินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด อ่านและร่วมทำข่าว 9 อ.ส.ม.ท. ดังจนนิตยสาร HI-CLASS มาสัมภาษณ์เป็นเรื่องขึ้นปก และบนปกพาดหัวตัวใหญ่ว่า ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล “อีก 10 ปี ผมจะกลับสุพรรณ” ตอนนั้นผมก็คิดว่าชื่อเสียง งาน และเงิน ก็ดูท่าจะดีแล้ว ทำงานเดิมให้หนักๆไปสัก 10 ปี ก็น่าจะซื้อที่ดินปลูกบ้านกลางหมู่ต้นไม้ริมน้ำท่าจีน สร้างทีมงานให้เข้มแข็ง แล้วตัวผมเองจะได้ปลีกตัวมาใช้ชีวิตช่วงอายุ 50 กว่าๆกับธรรมชาติ ดูแลลูกน้องและบริษัทแปซิฟิคฯอยู่ห่างๆ นั่งดูโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและจัดรายการวิทยุ “โลกยามเช้า” จากบ้านหลังน้อยริมแม่น้ำสุพรรณฯ กินพืชผักผลไม้ในสวน อยู่อย่างพอเพียง เหลือใช้บ้างเล็กน้อย แล้วค่อยตายจากโลกนี้ไปอย่างเงียบๆ. 
กำหนดเผาศพที่วัดวิมลโภคาราม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีประมาณเมื่ออายุ 80 ปีกว่าๆ
          มาบัดนี้ผ่านไป 13 ปีแล้วผมก็ยังทำไม่ได้อย่างที่หวัง ผมซื้อที่ดินริมแม่น้ำสุพรรณหรือแม่น้ำท่าจีนได้ 7 ไร่ มีต้นไม้เก่าขึ้นครึ้มเต็มไปหมด ทั้งมะม่วง มะปราง มะกรูด มะไฟ กระท้อน กล้วย ส้มโอ ประดู ตะแบก ไผ่ ฯลฯ  นึกว่าจะมีเงินปลูกบ้านได้ ก็ไม่มี ในปี 2539 ผมลาออกจากบริษัทแปซิฟิคฯ มาตั้งบริษัทชื่อเอเชียวิชั่น ทำงานที่ช่อง 11 ก็ล้มเหลวหนี้สินมหาศาล ผมลาออกมาสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจากจังหวัดสุพรรณบุรี ร่างรัฐธรรมนูญอยู่แปดเดือนก็หมดงาน เคว้งคว้างว่างงานอยู่จนปี 2542 มหาวิทยาลัยรังสิตจ้างไปเป็นคณบดีคณะนิเทศศาสตร์อยู่เกือบปีแล้วลาออกหลังจากไปสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2543 จนถึงปัจจุบันก็เป็น “สว.” มาได้สามปี ครึ่งทางพอดี อายุครบ 55 ปี ก็ครึ่งทางชีวิตพอดี หรือค่อนทาง หากจะอยู่ไม่ถึง 100 ปี. 

          ผมสรุปชีวิตตัวเองว่าไม่ประสพความสำเร็จในอาชีพอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่อย่างเดียว 
          เป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตอนที่ HI-CLASS ไปสัมภาษณ์ ก็เพียงแค่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 
          ออกมาทำข่าวโทรทัศน์ก็เพียงแต่มีชื่อเสียงเป็นผู้ประกาศข่าวและนักข่าว  ไม่ได้แก้ปัญหาการสื่อสารมวลชน หรือการผลิตข่าวสารเพื่อชาติและสังคมอย่างมั่นคงถาวร
          แถมความมั่งคั่งและมั่นคงทางเศรษฐกิจการเงินส่วนตัวและครอบครัวก็ไม่มีเลย.
          เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญก็ได้ร่วมร่างบางวรรคบางมาตราในรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็สร้างความพึงพอใจเป็นการส่วนตัวมากจริงๆเพียงมาตรา 40 มาตราเดียว.
          เป็นคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ไม่นานพอที่จะทำโครงการใดที่เริ่มไว้ให้เสร็จ
          มาเป็นสมาชิกวุฒิสภา 3 ปีแล้ว ก็รู้สึกว่าเป็นงานที่ได้แต่คิด ดีแต่พูด ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากบางวรรคบางมาตราในร่างพระราชบัญญัติฉบับต่างๆ

            งานด้านสื่อสารมวลชนที่สร้างชื่อเสียงให้กับผมมาแต่อดีตนั้น ในปี 2545 ที่ผ่านไปนี้ เป็นปีสุดท้ายที่จะมีสื่อให้ทำ รายการวิทยุ “โลกยามเช้า” ทำมา 18 ปี ถูกสั่งปิดรายการไปตั้งแต่ต้นปี 2545  รายการเพลงลูกทุ่ง “คุยเฟื่องเรื่องไท” ทำมา 4 ปี ก็ถูกยุบหายไปกับคลื่นลูกทุ่งเวทีไท FM90 ทั้งคลื่น เพื่อเปิดทางให้กับเพลงฝรั่งของบริษัทอื่น

          บ้านที่ฝันไว้ว่าจะสร้างที่ริมน้ำสุพรรณฯก็ไม่ได้สร้างเพราะรายได้ลดลงจากเดิมถึง 5 เท่า ไม่ต้องห่วงเรื่องจานดาวเทียม หรือรายการวิทยุที่อยากจะจัดจากสุพรรณบุรี 

          ถึงผมจะสรุปชีวิตตัวเองว่าไม่ประสพความสำเร็จในอาชีพอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่อย่างเดียว แต่ผมก็สรุปอีกว่าชีวิตของผมประสพความสำเร็จไม่น้อยในภาพรวมของ “การเป็นชีวิต” 

          ถ้าแยกย่อยเป็นการงานพื้นฐานอาชีพ (กพอ.-ตามชื่อวิชาในชั้น
          ประถมศึกษา) ผมล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะผมทำงานหลายอย่าง
          ไม่เคยถึงระดับสูงสุดแม้แต่อย่างเดียว 

          หากมองภาพรวมของการใช้ชีวิต ผมได้ 
          “ความหลากหลายทางอาชีวภาพ” อย่างที่สุด 

          ใช้ชีวิตมา 55 ปี ทำงานมาแล้ว 5 ประเภท ใน 7 แห่ง  

          ปี 2546 เป็นปีที่ผมหมดงานวิทยุและโทรทัศน์โดยสิ้น แต่ก็กำหนด
          ทางชีวิตไว้ว่าจะหางานอย่างที่ 6 ทำ คืองานเขียนและแปลหนังสือ
          คอลัมน์ “ศิลปะการใช้ชีวิต” ที่ HI-CLASS ชวนให้เขียนนี้มา
          ประจวบเหมาะกับช่วงชีวิตที่ผันแปรพอดี แม้นานๆจะเขียนสักครั้ง
          แต่ก็ถือเป็นการปูทางไปสู่งานเขียนที่เป็นรูปเล่มที่ผมกำลังทำอยู่
          และจะทยอยออกพิมพ์ในปี 2546 นี้ และปีต่อๆไป.

          ผมต้องการความสุขในการเกิดมา “เป็นชีวิต” 

          อะไรที่คิดว่าเป็นความล้มเหลวในการดำเนินชีวิตอาจเป็นเพราะเรา
          มัวแต่มองส่วนแยกย่อยของการใช้ชีวิตแต่เพียงมิติเดียว 

          มองให้กว้างทั้งหมด ทุกมิติ ทุกส่วน เห็นภาพรวมของการ 
         “เป็นชีวิต” แล้ว ผมพอใจและมีความสุขอย่างล้นหลามในการเกิด
         มา “เป็นชีวิต” บนโลกมนุษย์นี้มาก

          อยากอยู่ “เป็นชีวิต” ให้ถึง 100 ปีจริงๆ 

         สมเกียรติ อ่อนวิมล
         1 มกราคม 2546

    ความเห็นของท่านมีคุณค่า ❊ WE VALUE YOUR OPINION

Submit
THAIVISION® 
REFLECTION ON EVENTS ON PLANET EARTH AND BEYOND 
​©2020 All Rights Reserved  Thai Vitas Co.,Ltd.  Thailand  
✉️
  • THAIVISION
  • SOMKIAT ONWIMON
    • THE DISSERTATION
    • MY STORY
    • ศิลปะในการใช้ชีวิต
    • KIAT&TAN >
      • TAN ONWIMON >
        • INTERVIEW