THE HARD POWER OF
สงกรานต์ ความจำกัดของ Soft Power:
"In a liberal society, government cannot and should not control the culture. Indeed the absence of policies of control can itself be a source of attraction." "ในสังคมเสรี รัฐบาลไม่สามารถ และไม่ควร ที่จะควบคุมวัฒนธรรม ที่จริงการไม่มีนโยบายควบคุมวัฒนธรรมนั่นเองที่เป็นพลังดึงดูดใจ" Soft Power คืออะไร? เป็นอย่างไร? จาก Joseph Nye, Jr. ผู้ให้กำเนิดความคิดเรื่อง Soft Power เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว >>> เชิญอ่าน>>>SOFT POWER (Joseph Nye, Jr.) Soft Power กับ ประเทศไทยSoft Power กับ ประเทศไทย ปี 2566-67 เป็นปีที่มีการพูดถึงเรื่อง Soft Power กันมากในประเทศไทย ทั้งในภาครัฐ โดยเฉพาะรัฐบาล และภาคสื่อสารมวลชนซึ่งอาจจะเป็นการรายงานข่าว หรืออาจเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายและกิจกรรมที่คิดว่าเป็นเรื่องหรือเกี่ยวข้องกับเรื่อง Soft Power ตามที่คิดว่าเข้าใจ นี่เป็นเพียงเรื่องที่ว่า ใครพูดหรือวิจารณ์เรื่อง Soft Power ในประเทศไทย ส่วนเรื่องที่ว่าใครทำอะไรกันบ้างที่เป็นเรื่องการสร้างอำนาจนุ่มนวลหรือ Soft Power สำหรับประเทศไทยนั้นก็เต็มไปด้วยคาวมไม่เข้า่ใจและขาดความรู้พื้นฐานทางแนวคิดเชิงวิชาการเรื่อง Soft Power จนถือเป็นปรากฏการณ์ปกติ หรือ “new normal” ไปแล้ว ดังนั้นการวิจารณ์ปรากฏการณ์เรื่องราวข่าวสารและกิจกรรมที่อ้างว่าเป็น Soft Power ในประเทศไทยนั้นจึงจำต้องเริ่มต้นที่การอ่านต้นเรื่องอันเป็นต้นกำเนิดความคิดเรื่อง Soft Power ในตำราวิชาการสำคัญเรื่อง “Soft Power: The Means to Success in World Politics” โดยศาสตราจารย์ Joseph Nye, Jr. ที่พิมพ์เผยแพร่ในปี 2004 หากไม่นับหนังสือเรื่องอื่นๆของท่านก่อนหน้า และ ตามหลังหนังสือเรื่องนี้ ความไม่เข้าใจเรื่อง Soft Power และนำไปใช้ผิดๆในสหรัฐอเมริกาเป็นเหตุให้ศาสตราจารย์ Joseph Nye ต้องอธิบายซ้ำ เขียนหนังสือและบทความซ้ำแล้วซ้ำอีก โลกจึงค่อยๆเข้าใจแก่นแท้และสาระสำคัญของมิติที่สองแห่งอำนาจนี้ ที่ได้แปล อธิบาย สรุปให้เข้าใจโดยละเอียดไปเสร็จเรียบร้อยแล้วที่บทที่ 1 อันเป็นหัวใจของหลักการอันเป็นความคิดรวบยอด หรือ ‘concept’ ว่าด้วย ‘Soft Power’ จบแล้วรวม 8 ตอน ส่วนบทเรียนเกี่ยวกับความสับสน ใช้ผิดๆถูกๆในสหรัฐอเมริกา, Russia, ยุโรป, จีน, และหลายประเทศในเอเซีย ก็ได้ถูกประเมินไว้แล้วในหนังสือเรื่องเดียวกันนี้ในบทที่ 2-3-4 และ 5 ซึ่งจะได้สรุปให้ได้อ่านกันในโอกาสที่เห็นควรในอนาคต แต่เฉพาะตอนนี้ ถึงเวลาที่ควรจะวิเคราะห์แบบเน้นเฉพาะประเทศไทยเป็นสำคัญก่อน เพราะยังมีความไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่อง Soft Power กันมากอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะในภาครัฐที่ถลำลึกไปตามกระแสข่าวสารจนรัฐบาลไทยถึงกับตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาทำงานเรื่อง Soft Power เป็นพิเศษโดยเฉพาะ ทั้งๆที่มีความไม่รู้เรื่อง Soft Power อย่างแท้จริงอยู่มากในรัฐบาลไทยทั้งระบบ ณ ปี 2004 ศาสตราจารย์ Joseph Nye, Jr. เอ่ยถึงประเทศไทยไว้ 6 บรรทัด ในบทที่ 3 หน้า 89 ดังนี้: “Of course smaller countries both in Asia and other regions also enjoy soft power. South Korea and Thailand attract others through their economic and democratic Progress. Thailand has even discovered that foreigners love Thai food, and its government set a goal of boosting the number of Thai restaurants overseas as a way to ‘subtly help to deepen relations with other countries.’” (อ้างจาก “Thailand’s Gastro-diplomacy,” The Economist, February 23, 2002, p.48) (แปล) “แน่นอนว่าประเทศเล็กๆทั้งในเอเชียและภูมิภาคอื่นก็ได้ประโยชน์จาก Soft Power เช่นกัน เกาหลีใต้ และ ประเทศไทย ก็มีอำจาจดึงดูดชาติอื่นๆด้วยความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและและการพัฒนาประชาธิปไตย และประเทศไทยก็ยังได้พบว่าชาวต่างประเทศรักอาหารไทย แล้วรัฐบาลก็ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยนอกประเทศไทย ‘นัยว่าจะเป็นการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆให้ดีลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น’” นั่นคือปรากฏการณ์ Soft Power จากประเทศไทยที่ศาสตราจารย์ Joseph Nye, Jr. สังเกตเห็นผ่านสื่อมสวลชนอังกฤษ เมื่อ 22 ปีที่แล้ว เฉพาะย่อหน้าเดียวที่ ศาสตราจารย์ Joseph Nye, Jr. กล่าวถึงประเทศไทย ก็สามารถนำหลักการความคิดรวบยอดเรื่อง Soft Power ของท่านมาอธิบายปรากฏการณ์ Soft Power ของไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบันได้ ดังนี้: 1. ประเทศไทย โดยภาครัฐรู้จักเรื่อง Soft Power และพยายามจะใช้อำนาจมิติที่สอง คือ “อำนาจอันนุ่มนวล” นี้มาแล้วตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งเป็นปีที่ The Economist รายงานข่าวนี้ 2. ประเทศไทยเข้าใจถูกต้องแล้วในปี 2002 ว่า Soft Power เป็นเรื่องการทำให้ชาติอื่นรักประเทศไทยด้วยโครงสร้างทรัพยากรอำนาจหลัก 2 ใน 3 ประการคือ (2) ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอันเป็นผลพวงจากนโยบายต่างประเทศ และ (3) การพัฒนาประชาธิปไตย อันเป็นเรื่องค่านิยมในการสร้างประเทศด้วยระบบการเมืองการปกครองที่ได้มาตรฐานประชาธิปไตยโลก ทำนองเดียวกับเกาหลีใต้ ทั้งสองเรื่องนี้เป็นสองในสามองค์ประกอบอันเป็นหัวใจของแหล่งทรัพยากรอันเป็นที่มาของพลัง Soft Power ที่ดึงดูดให้ชาติอื่นนิยมชมชอบและรักประเทศไทย ส่วนองค์ประกอบที่ 1 ที่มาก่อนลำดับที่ 2 และ 3 ที่รัฐบาลไทยเพิ่งจะค้นพบในบริบท Soft Power คือเรื่องวัฒนธรรม ซึ่งอาหารไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยและรัฐบาลไทยค้นพบว่าความรักอาหารไทยจากชาวต่างชาติเป็นพลังดึงดูดให้ชาวต่างชาติรักประเทศไทยได้ แล้วรัฐบาลไทยในปี 2002 จึ่งเริ่มมีนโยบายสนับสนุนอย่างเต็มที่ในเรื่องการเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ไม่ใช่เพื่อให้ต่างชาติมากินอาหารไทยมากขึ้นเฉยๆ แต่เพื่อให้ต่างชาติรักประเทศไทยมากขึ้น อย่างหนึ่งก็โดยการให้ต่างชาติได้มีโอกาสเข้าถึงอาหารไทย และวัฒนธรรมไทยที่เขารักมากขึ้นไปทั่วโลก และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องนโยบายต่างประเทศ และเรื่องวัฒนธรรมไทยก็เป็นส่วนผสมอยู่ในแหล่งทรัพยากรแห่งอำนาจนุ่มนวลอำนาจเดียวกัน ไม่ใช่การขายอาหารไทยให้คนไทยมีรายได้มากขึ้นจากนักท่องเที่ยว แต่เป็นการทำให้ชาวต่างชาติรักประเทศไทยมากขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสำคัญ 3. พลัง Soft Power นั้น โดยหลักวิชาการ เกิดมาจาก (1) วัฒนธรรม (2) ค่านิยม อุดมการณ์ และสถาบันทางการเมือง และ (3) นโยบายต่างประเทศ ในเรื่องที่ว่าวัฒนธรรมไทยเป็นพลังดึงดูดให้ชาติอื่นรักและชื่นชมนั้น เป็นเรื่องที่คนไทยทราบดีมานานแล้วเพียงแต่ไม่ได้นิยามว่าเป็น “อำนาจ” ดึงดูดให้คนอื่นรักแต่อย่างใด นอกจากจะภูมิใจว่าเรามีวัฒนธรรมที่โลกรัก แต่พอมารู้ว่าวัฒนธรรมเป็นที่มาของอำนาจ Soft Power ก็กลายเป็นเรื่้องสับสนบานปลาย กลายเป็นการคิดกันว่าวัฒนธรรมเป็นสินค้าขายออกต่างประเทศเพื่อทำรายได้ให้มากขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้ชาติอื่นชื่นชมหลงรักโดยธรรมชาติของพลังวัฒนธรรมไทย จึงเป็นที่มาของความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลไทย และอาจจะลุกลามไปถึงสังคมไทย ในปี 2024 ปีปัจจุบัน ค่านิยมด้านสถาบันทางการเมืองของไทยในปี 2002/2545 ในบริบทแห่งกาลเวลานั้น ประเทศไทยถือเป็นแบบอย่างได้ในความสำเร็จเรื่องการพัฒนาประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 นั้นประชาชนและสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญร่วมกันร่าง และเพิ่งประกาศใช้มาได้ 5 ปี (ถึงปี 2002/2545) ด้วยความราบรื่นเป็นแบบอย่างสำหรับรัฐสมาชิก ASEAN และโลกก็เฝ้าจับตาดูด้วยความยินดี มีการเลือกตั้งตามแบบประชาธิปไตยทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ทั้งสองสภาเลือกตรงจากประชาชนทั่วประเทศ มีองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระถ่วงดุลย์อำนาจที่อาจจะฉ้อฉลทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่นักการเมืองและข้าราชการได้ อย่างน้อยก็พอมีความหวังในระดับแรกเริ่ม การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยก็อยู่ระดับบนของ ASEAN เป็นที่สองที่สามรองจาก Singapore และ Malaysia ธนาคารโลกจัดประเทศไทยเป็นประเทศที่ประชาชนมีรายได้ปานกลางขั้นกลางถึงขั้นสูง ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วหลังวิกฤติเศรษฐกิจโลกในช่วงก่อนและหลังปี 1997 ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองที่อยู่ในระดับเป็นแบบอย่างที่ดี ประเทศไทยมีพลังดึงดูดให้นานาชาติชื่นชมยกย่องและหลงรักได้อย่างน่าภูมิใจ ไทยคงความเป็นชาติผู้นำ ASEAN เรื่องมาตั้งแต่ปี 1967 ที่ไทยนำกระบวนการก่อตั้ง ASEAN หลังจากการประชุมสุดยอด ASEAN ที่ชะอำ-หัวหิน ปี 2008 และความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มชนในประเทศยังผลให้โครงสร้างทางการเมืองและสังคมประชาธิปไตยในประเทศไทยไถลลงต่ำเป็นระยะๆ แทรกซ้อนด้วยระบบการเมืองที่มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างมากมายกระจายทั่ว แถมการแทรกซ้ำทำลายกระบวนการประชาธิปไตยด้วยอำนาจแข็งของฝ่ายทหารที่เข้าแทรกแซงการเมืองอย่างฉับพลันถึงสองครั้ง มาถึงวันนี้ ค่านิยม อุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายต่างประเทศของไทยไม่มีพลังแห่ง Soft Power หลงเหลืออยู่เลยในภาครัฐ 4. ที่ยังมีเหลืออยู่คือพลังทางวัฒนธรรม แต่พลังอำนาจทางวัฒนธรรมก็เป็นของประชาชนและสังคม ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐ ดังที่ทราบเป็นหลักการของ Soft Power ตามที่ีศาสตราจารย์อธิบายแล้วว่า: (1) Soft Power นั้นมากจาก วัฒนธรรม ค่านิยมทางสังคมและการเมือง และ นโยบายต่างประเทศ (2) Soft Power นั้นเกิดขึ้นในสองส่วนของสังคม คือภาครัฐ และ ภาคประชาชน (รวมภาคเอกชนและประชาสังคม ฯลฯ) เมื่อภาครัฐล้มเหลวไปแล้วในขุมพลัง Soft Power ยกเว้นเรื่องวัฒนธรรม แต่พลังวัฒนธรรมนั้นก็เป็นเรื่องที่สังคมและประชาชนวิวัฒนาการสร้างสรรค์ขึ้นกันเองโดยธรรมชาติและกาลเวลาบนเส้นทางประวัติศาสตร์ รัฐมิควรและจะทำไม่ได้ ที่จะเข้าไปแทรกแซงเรื่องวัฒนธรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงให้เป็นอำนาจที่รัฐบาลจะเอาไปใช้ซื้อ-ขาย ขอความรักจากชาติอื่นตามใจรัฐบาล ศาสตราจารย์ Joseph Nye, Jr. ย้ำว่า: “รัฐบาลไม่สามารถ และไม่ควร ที่จะควบคุมวัฒนธรรม ... แน่นอนแท้จริงว่าการไม่มีนโยบายควบคุมวัฒนธรรมนั่นเองที่เป็นพลังดึงดูดใจ” นี่คือข้อจำกัดของ Soft Power ที่รัฐบาลไทยต้องเข้าใจว่าวัฒนธรรมเป็นของประชาชน รัฐมิควรและต้องไม่เข้าไปแทรกแซงจัดการใหม่ให้กลายเป็นสินค้าส่งขายชาวต่างชาติ แต่รัฐอาจพยายามช่วยสนับสนุนประคับประคองให้วัฒนธรรมของชาติมั่งคั่งงดงามยั่งยืน เพื่อเป็นพลังช่วยเสริมนโยบายต่างประเทศได้ หรืออย่างน้อยๆก็พยายามมิให้วัฒนธรรมเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศก็พอได้ ศาสตราจารย์ Joseph Nye, Jr. กล่าวว่า: “Soft Power จากและโดยภาคประชาชนนี้อาจจะช่วยเสริมหรือสวนทางกับเป้าหมายของนโยบายต่างประเทศของรัฐอย่างเป็นทางการ ก็ได้ทั้งสองทาง ซึ่งการคิดแบบนี้เป็นความจริง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เป็นยุคโลกาภิวัตน์ข้อมูลข่าวสาร บทบาท Soft Power จากภาคประชาชนและเอกชนกำลังมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐจะต้องรักษาบทบาทหน้าที่และนโยบายของรัฐเองต่อภาคเอกชนและประชาสัมคมมิให้กัดกร่อนทำลายแต่ให้สนับสนุน Soft Power ที่เป็นของรัฐเองให้ได้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ จากปี 2002 ข้ามกาลเวลามา 22 ปี ประเทศไทย โดยรัฐบาลไทยชุดใหม่จากพรรคเพื่อไทยของคุณทักษิณ ชินวัตร กลับมาพูดและทำเรื่อง Soft Power กันอีกรอบ พูดกันมากขึ้นจนเป็นกระแสใหญ่ในสังคมข่าวสาร ดูเหมือนรัฐบาลขยันจะพยายามทำงานสร้างอำนาจนุ่มนวลให้จริงจังมากขึ้นกว่า 22 ปีที่แล้ว แต่ทั้งที่พูดและที่ทำ ล้วนอ้าง Soft Power เป็นเครื่องอธิบายทั้งนั้น แถมเป็นการพูด การอ้าง อย่างผิดๆ และที่ทำก็ทำแบบผิดๆ ไม่ใช่เรื่อง Soft Power แต่เป็นเพียงกิจกรรมที่รัฐบาลสั่งให้ทำ และประทับตราให้เรียกว่าเป็น Soft Power ลำดับขั้นตอนการกระทำความผิดของรัฐบาล ถือเป็นความผิดเชิงวิชาการ เรื่อง Soft Power ดังนี้:
การหาคาวมรู้สร้างความเข้าใจเรื่อง Soft Power จริง ๆ ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลย เพียงอ่านหนังสือของ Prof. Joseph Nye, Jr. เรื่อง “Soft Power: The Means to Success in World Politics” เท่านั้นเองก็พอ พิมพ์ขายมา 20 ปีแล้ว ราคา $15.99 (586.68 บาท) เท่านั้นเอง ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ 5,164 ล้านบาทให้สูญเปล่าแถมเป็นการทำลาย Soft Power ให้เสื่อมลงตามอำนาจเงิน 5,164 ล้านบาท ไปด้วย [เท่ากับ 8,802,072.680 (แปดล้านแปดแสนสองพันเจ็ดสิบสอง) เท่า ของราคาหนังสือ)] * [จบ]. |
Vertical Divider
TAN ONWIMON Master of Music in Screen Scoring: USC Thornton School of Music, LA (2022-2023) Bachelor of Music in Film Scoring: Berklee College of Music, Boston (2014 - 2017) B.A. in Journalism / Film Production: Thammasat University, Bangkok (2008-2012) Walla Walla High School, WA, (American Field Service International Scholarship) (2007) Kasetsart University School, Bangkok (1996-2008) Tan Onwimon, my son, is a musician who grew up in the musical theatre world. He began his career as an ensemble cast in many theatre productions from a small political theatre to musicals including Dreamgirls the Musical (Thailand Cast). From there, he gets to learn music composition by sitting next to the musical conductor during the performance. The experience opened many more opportunities for him to continue expressing his music in the art of storytelling such as films, animation, and video games. Tan's music has been featured in various media including Hulu Original Series Wu-Tang: An American Saga Season 2-3, THAI Airways Inflight video, Agoda.com's Underwater Minigame, Tipitaka: the Living Message (Documentary), The National Parks of Thailand (Documentary), Be@rbrick (Toy Commercial) and more. Tan lives and works in Los Angeles. bobby sands BOBBY SANDS > เป็นนักรบในกองทัพรวมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Irish Republican Army - IRA) ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำของอังกฤษเขาร่วมประท้วงด้วยการอดอาหารนาน 66 วันจนถึงแก่ชีวิตวันที่ 5 พฤษภาคม 1981 นับเป็นการประท้วงด้วยการอดอาหาร (hunger strike) ที่ยาวนานมากคนหนึ่งในโลก จนถึงแก่ชีวิตในการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างไอร์แลนด์กับอังกฤษ เรื่องราวจากบันทึกที่ลักลอบออกมาจากเรือนจำเมื่อปี 1978 ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Republican News และบางส่วนแปลเป็นไทยให้ท่านได้อ่านและคิดวิเคราะห์ต่อไป > BOBBY SANDS มหาตมะคานธีกับการประท้วงแบบอหิงสาและสัตยะเคราะห์
การอดอาหารจนถึงแก่ชีวิตเป็นวิธีสุดท้ายเมื่อความพยายามอย่างอื่นล้มเหลวหมดสิ้นแล้ว |
Vertical Divider
THAIVISION® is a personal website of Somkiat Onwimon of Thailand. All contents, unless otherwise stated, are SO's sole responsibility. Intellectual property rights are strictly observed under the Berne Convention (1886, 1914, 1979), the World Intellectual Property Organization Copyright Treaty (1996), and Thai laws. THAIVISION aims to serve the public in areas of SO's personal interest. Books and literatures are the main sources of enlightenment. World affairs, science, humanities, philosophy and culture are among leading subjects to be explored. Constructive engagement from readers are highly valued. THAIVISION is bi-lingual, ไทย and English. Somkiat Onwimon is the legal owner of THAIVISION and all copyrights therein, excluding other non-copyright and public domain materials. THAIVISION.com is registered with Network Solutions and hosted by Weebly.
©THAIVISION Header/logo background picture: Pak Chong sky 26 April 2019
©THAIVISION Header/logo background picture: Pak Chong sky 26 April 2019