Vertical Divider

Vertical Divider

ประเทศไทย
ราชอาณาจักรแห่งบ่อนการพนัน 
และ สถานเริงรมย์ครบวงจร?

*
    วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2568 เป็นวันที่รัฐบาลแจ้งให้สภาผู้แทนราษฎรบรรจุวาระการประชุมเร่งด่วนเป็นพิเศษ พิจารณา “(ร่าง) พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” หรือที่มักจะเรียบทับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า “Entertainment Complex”โดยจะเร่งสร้างแหล่งเริงรมย์และบ่อนการพนันรวมในศูนย์เริงรมย์และการพนันขนาดใหญ่ ณ หลายแห่งหลายจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศไทย หมายความว่าหากรัฐบาลผลักดันเรื่องนี้สำเร็จ ประเทศไทยอันเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม และดินแดนตัวอย่างชาวโลกในเรื่องการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุศาสนา เชื้อชาติและวัฒนธรรม ที่ดำเนินมาอย่างสงบสันติสุขและยั่งยืนมานานถึงกว่า 800 ปี นับแต่ก่อนสมัยสุโขทัยจนปัจจุบัน จากนี้ไป ถ้ารัฐบาลผ่านกฎหมายอันเป็นเสมือนตราประทับรับประกันการทำบาปและความเลวร้ายต่อสังคมได้สำเร็จ ราชอาณาจักรไทย สังคมและวัฒนธรรมไทยจะผันแปรไปเป็นสังคมบาป มุ่งหาเงินกันด้วยความโลภ เสี่ยงโชค และอบายมุข กิเลสตัณหาทั้งปวง ครบวงจรอุบาทว์แห่งอธรรมไปโดยพลัน

    ทำไมรัฐบาลจึงคิดทำเรื่องที่เลวร้ายขัดหลักศาสนาและวัฒนธรรม สวนทางกับความเป็นไทยถึงขนาดนี้ได้ และที่สำคัญ ทำไมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ผู้เป็นแกนนำรัฐบาลผสมหลายพรรค จึงกล้าและเร่งทำโดยไม่เคยบอกประชาชน ไม่เคยหาเสียงเรื่องจะสร้างบ่อนคาสิโนแบบนี้มาก่อน ไม่เคยพูด ไม่เคยถาม ไม่เคยปรึกษาประชาชนมาก่อนเลย พอประชาชนนิยมนโยบายพรรคในเรื่องอื่นๆที่พรรคหลอกล่อสำเร็จ แล้วเลือกพรรคเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล เรื่องที่หาเสียงไว้มากมายก็ยังไม่ได้ทำ ที่ทำก็ยังไม่สำเร็จ หรือก็มีที่ทำแบบไม่ตรงตามคำมั่นสัญญา  
    มาถึงเรื่องตั้งบ่อนการพนันบันเทิงเริงรมย์ครบวงจรอย่างมีกฎหมายรองรับ เรื่องที่กระทบความเป็นชาติไทยอย่างครบทุกมิติ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และโดยเฉพาะมิติศาสนา ทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู ซิกข์ เป็นศาสนาหลักอันสำคัญในสังคมไทย นับรวมจำนวนวัดพุทธศาสนา (44,221 วัด) มัสยิด และ สุเหร่า (3,943 แห่ง ), โบสถ์คริสต์ วัดฮินดู วัดซิกข์ วัดจีนขงจื๊อ และศาสนสถานนิกายศาสนาต่างๆด้วยแล้ว นับได้ถึงกว่า 50,000 แห่ง รับใช้ ช่วยขัดเกลาศีลธรมของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศเกือบ 80 ล้านคน ไม่มีศาสนาใดสอนให้คนไทยโลภ ก่อกิเลส ทำความชั่ว สร้างสมนิสัยก่อบาปจากอบายมุขทั้งปวง โดยเฉพาะเรื่องการพนัน และโดยเฉพาะการที่จะจัดให้เล่นการพนันในบ่อนคาสิโนที่รัฐบาลจะสร้างให้คนไทยและชาวต่างชาติไปทำความชั่วร้ายทำลายตัวเอง ทำลายสังคมและวัฒนธรรมของประเทศชาติ ราชอาณาจักรไทยของเรา 
    รับประกันได้ว่าคนไทยทุกศาสนาเป็นคนดีโดยพื้นฐานทางศีลธรรมแห่งศาสนาตน หากนักการเมือง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการสร้างบ่อนคาสิโนอย่างถูกกฎหมายนั้น หากได้ออกไปหาเสียงถามประชาชนเรื่องนี้ก่อนเลือกตั้งเมื่อสองปีที่แล้ว ประชาชนจะไม่เลือกเอาพรรคการเมืองที่จะสร้างบ่อนการพนันแน่นอน และจะไม่เลือกพรรคเพื่อไทยแน่นอนยิ่งกว่า มาบัดนี้ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็น พ้องต้องกันว่าต้องการหาเงินกับบ่อนคาสิโนที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาติจะเข้าไปเสียเงินกับอบายมุขชั้นต่ำศีลธรรมเช่นนี้ได้อย่างสะดวก คนส่วนใหญ่จะเสีย คนส่วนน้อยจะได้ เจ้ามือและเจ้าของบ่อนจะได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่าใคร เพราะเป็นเจ้ามือ เป็นฝ่ายเก็บค่าต๋งทุกเวลานาที หากเจ้าของบ่อนเป็นนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งดูข่าวว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น รายได้เข้าบ่อนจะเป็นของนักลงทุนต่างชาตินำออกไปนอกประเทศ รัฐบาลอาจจะได้ค่าธรรมเนียมเล็กๆน้อยๆ คนไทยอาจได้งานเป็นลูกจ้างระดับล่างจำนวนไม่กี่คน เศรษฐกิจไทยจะไม่ดีหรือเพิ่มพูนขึ้นแต่อย่างใดเลย เพราะการพนันไม่ใช่การผลิตสินค้าหรือบริการที่มีผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ไม่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแต่ผลการตกต่ำทรุดโทรมเสื่อทรามทางศีลธรรม และความน่าอับอายทางวัฒนธรรมความเป็นชาติที่ขาดความงดงามในวิถีชีวิต
    หากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลโปร่งใสและบริสุทธิ์ใจในนโยบายและความคิดตั้งบ่อนการพนันของพวกตน ก็ควรที่จะยุบสภาแล้วออกไปหาเสียงเลือกตั้งกันใหม่โดยเร็วถ้าอยากได้บ่อนคาสิโนอย่างเร่งด่วน ออกไปถามประชาชนเรื่องนี้ แล้วประชาชนจะตอบเองโดยคะแนนเสียงเลือกตั้งที่จะลงคะแนนให้

    หากทำได้ดังที่ว่านี้เราก็จะได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง 

    ถ้าประชาชนต้องการบ่อนคาสิโน ก็เลือกพรรคที่ต้องการบ่อนคาสิโน 

    ถ้าต้องการรักษาศีลธรรมและวัฒนธรรมของชนในชาติ ปกป้องอัตลักษณ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมของไทยให้ยืนยาวต่อไป ก็เลือกพรรคที่ต่อต้านบ่อนคาสิโน

    แต่ถ้าไม่มีพรรคการเมืองใดเลยต่อต้านบ่อนคาสิโน ประชาที่ต่อต้านบ่อนคาสิโนก็ลงคะแนนไม่เลือกพรรดใดเลย

    ผลออกมาอย่างไรก็ว่าตามนั้น เพราะเรายึดมั่นในหลักประชาธิปไตย

    หากประเทศไทยเป็นรัฐอิสลาม ก็จะไม่มีวันตั้งบ่อนคาสิโนได้ เพราะพระมหาคัมภีร์อัล กุรอานห้ามการพนันทั้งปวง เด็ดขาด แล้วเราจะให้รัฐบาลไปสร้างบ่อนคาสิโนที่ไหนที่ไม่มีชุมชนมุสลิมอยู่ใกล้เคียง
    คนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ  ปฏิเสธอบายมุขทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น สุรา นารี เที่ยวดูการเล่น และเล่นการพนัน ว่าเฉพาะเรื่องการพนันหรือบ่อนคาสิโน ศาสนาพุทธสอนว่าเป็นเหตุแห่งความฉิบหายทั้งตัวเองและครอบครัว และทรัพย์สินเงินทอง

    ความเป็นนักเลงการพนัน พระไตรปิฎกจำแนกโทษไว้ 6 สถาน คือ:

1. เมื่อชนะย่อมก่อเวร ธรรมดาการพนันย่อมต้องมีได้บ้างมีเสียบ้างแต่ผู้เล่นทุกคนอยากได้อย่างเดียวเท่านั้น ถ้าผู้เล่นการพนันเล่นได้สมใจ ก็ชะล่าใจชวนให้อยากเล่นต่อไป ส่วนผู้เล่นเสียก็เกิดความอาฆาตมุ่งหมายจะเอาชนะแก้มือให้ได้ เป็นการก่อเวรกันขึ้น
2. เมื่อแพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป ผู้เล่นการพนันที่เสียไปย่อมเกิดความอาฆาต มุมานะเล่นต่อไป เพราะเสียดายทรัพย์สินที่เสียไป ถ้ายิ่งเล่นไปยิ่งเข้าเนื้อขาดทุนไปอีกก็จะหมกมุ่นหนักเข้า คือการเล่นการพนันไม่มีเวลาหยุดจนนำไปสู่โทษประการที่ 3
3. ทรัพย์ย่อมฉิบหาย เมื่อเล่นการพนันเสียเรื่อยไป เงินทองก็หมดสิ้น จำต้องขายสิ่งของหรือทรัพย์สมบัติ เพื่อจะได้เอาเงินมาเล่นแก้ตัวต่อไป  ทรัพย์สินเงินทองจึงวิบัติฉิบหาย ทำให้เกิดความเศร้าเสียใจแก่ตัวเอง และนำความลำบากมาสู่ครอบครัว
4. ไม่มีใครเชื่อถือถ้อยคำ ใครๆย่อมรู้ทั่วกันแล้วว่านักเลงการพนันไม่มีทรัพย์สมบัติเป็นหลักเป็นฐาน เพราะมีการเสี่ยงได้หรือเสียอยู่ตลอดเวลา ถ้าถึงคราวไม่มีเงินจะเล่นก็มักจะเที่ยวกู้ยืม ใช้อุบายล่อหลอกต่างๆ ให้ได้เงินมา หรือเอาทรัพย์สมบัติไปขายบ้าง จำนำบ้าง จำนองบ้าง เพื่อเอาเงินมาเล่นต่อไป นักเลงการพนันจึงไม่มีใครเชื่อถือได้เต็มที่ เพราะเขากลัวว่าจะทำให้เขาพลอยหมดเนื้อหมดตัวไปด้วย
5. เป็นที่หมิ่นประมาทของเพื่อน เมื่อไม่มีใครเชื่อถือถ้อยคำ ก็คงจะคบค้าสมาคมกับใครไม่ได้ เพื่อนฝูงก็คงจะดูหมิ่นดูแคลน ตีตนออกห่างไม่กล้าคบหา เพราะกลัวจะถูกล่อหลอก หยิบยืมเงินทองไปเล่นการพนันแล้วไม่คืน ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ใครดูหมิ่นว่าเราเป็นนักเลงการพนันที่มีนิสัยตลบแตลงแล้ว เราก็ต้องไม่เล่นการพนัน
6. ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นชายโสดหรือหญิงสาว ถ้าเป็นนักเลงการพนันแล้วก็ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะนักเลงการพนันรักษาทรัพย์ไว้ไม่ได้ จะพาให้ครอบครัวป่นปี้หมดเนื้อหมดตัว

เหล่าพระสงฆ์ใน 44,000 วัดทั่วราชอาณาจักรพุทธในประเทศไทยย่อมสอนเรื่องอบายมุขจนชาวพุทธรู้อยู่แก่ใจแล้ว รวมทั้งชาาวพุทธที่เป็นนักการเมือง โดยเฉพาะชาวพุทธที่เป็นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีด้วย

    หรือว่ารัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ไม่ใช่ชาวพุทธ และมิได้นับถือศาสนาใดๆเป็นสรณะ ไม่เคยสนใจเรียนวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมตามแบบเรียนที่กระทรวศึกษาธิการใช้สอนในระดับโรงเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงมัธยมปลาย ตั้งแต่สมัยที่เรายังไม่ได้เป็นประชาธิปไตยอะไรกันหนักหนา รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม, จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์, จอมพลถนอม กิตติขจร และจอมพลประภาส จารุเสถียร รับรองแบบเรียนวิชาหน้าที่พลเมือง
และศีลธรรม ให้ผมเรียนแต่วัยเด็ก มาจนบัดนี้อายุ 76 ปีแล้วยังจำได้และยังปฏิบัติตามคำสอนของครู หลวงพ่อ และกระทรวงศึกษาธิการอยู่
    กระทรวงศึกษาธิการวันนี้ถกเถียงเรื่องบ่อนการพนันอย่างไรในที่ประชุมคณะ
           รัฐมนตรี? 
    และหากฝ่ายค้านถามเรื่องนี้ อ้างอิงบทความนี้ ท่านรัฐมนตรีจจะตอบอย่างไร?
    รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม,
    รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,
    จะตอบอย่างไร?

    แล้วนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร นั้น เคยเห็น เคยอ่าน หรือเคยซาบซึ้งตรึงใจเรื่องหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมแบบที่คนแก่รุ่นผมซึ่งก็มีอายุเท่ากับพ่อของนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน เราอ่านแบบเรียนวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมมาเล่มเดียวกัน คุณทักษิณเคยสอนลูกสาว Gen.Y คนนี้ไว้บ้างหรือไม่อย่างไร? ไม่เคยสอน? หรือสอนแล้วไม่เชื่อ? หรือไม่เห็นด้วย? จึงสนับสนุนกฎหมายที่ส่งเสริมบาปทำลายศีลธรรม สังคม และวัฒนธรรมไทย ขนาดนี้ได้ หรือทั้งพ่อทั้งล๔กไม่สนใจในพระธรรมคำสอนของศาสนา และไม่ใส่ใจปฏิบัติตนตามที่สอนในวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม 
    ปัญหาหรือพฤติกรรมในครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว ดังนั้นเรื่องตั้งบ่อนการพนันหรือ คาสิโน ในแหล่งบันเทิงครบวงจรนี้ ไม่ว่าใครจะมีหรือไม่มีมาตรฐานศีลธรรมหรือจริยธรรมหรือวัฒนธรรมความเป็นไทยอย่างไร ก็ตามแต่ เป็นเรื่องครอบครัวจะสอนกันเองในบ้าน
    แต่ถ้าเป็นรัฐบาล เป็นผู้นำประเทศและสังคม ก็จำต้องให้ประชาชนเป็นผู้อบรมสั่งสอนให้เกิดจิตสำนึกทางศีลธรรมและหน้าที่พลเมืองดี รัฐบาล และนักการเมืองต้องกลับไปถามประชาชนในการหาเสียงเลือกตั้งใหม่ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในที่สุด 
    หากไม่เร่งด่วนนักก็ชะลอเอาไว้ก่อน ถอนร่างพระราชบัญญัติออกมาทิ้งไว้ก่อนก็ได้

    รอให้รัฐบาลทำงานสร้างประเทศไปอีกสองปีให้ครบวาระสี่ปีแล้วหาเสียงกันให้เต็มที่ เลือกตั้งกันใหม่ให้สมบูรณ์ก็ดี แต่ถ้ามีเหตุสำคัญเร่งด่วนก็ต้องยุบสภาแล้วจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งก็ต้องหาเสียงถามประชาชนเรื่้องบ่อนการพนันครบวงจรนี้เช่นกัน
    รักจะเป็นประชาธิปไตยก็ไม่มีทางเลี่ยงเป็นอื่น จะทำอะไรต้องถามประชาชนก่อน
และยิ่งหากจะทำเรื่องที่เป็นการทำลายวิถีชีวิต วัฒนธรรมและศาสนาในสังคมไทย เพื่อหวังเพียงเงินค่าสร้างบ่อน เข้าบ่อน นั้น ก็จำต้องแจกแจงกับประชาชนให้ละเอียดทุกตัวเลขและทุกมิติศาสนา สังคม และวัฒนธรรม

    เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากที่สุดในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของชนชาติไทย!

    ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจแต่อย่างใดเลย

    คาสิโน หรือ บ่อนการพนัน นั้น ไม่มีวันที่จะทำเงินสร้างชาติไทยหรือประเทศชาติไหนได้แน่นอน มีแต่จะทำลายคนที่เข้าบ่อนและเสียการพนันกลับออกมา ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทย

    การพนันทำลายชีวิตและครอบครัว ทำลายเศรษฐกิจครอบครัว เป็นความจริง เป็นสัจธรรมที่ไม่มีใครจะสามารถโต้แย้งเรื่้องนี้ได้ 

    หากเศรษฐกิจตนเองและครอบครัวล่มสลาย ประเทศก็ล่มสลายตามลงไปด้วย

    สำหรับศาสนาพุทธ พระไตรปิฎก / ภาค 4 เล่ม 11 / สุตตันตปิฎก
สอนเรื่องอบายมุข 6 ไว้ว่า:

“อริยสาวกไม่เสพปากทางแห่งความเสื่อมทรัพย์ 6 อย่าง

1. เป็นนักเลงสุรา
2. เที่ยวกลางคืน
3. เที่ยวดูการเล่น
4. เล่นการพนัน
5. คบคนชั่วเป็นมิตร
6. เกียจคร้าน

ทรงสอนว่า มิตรเทียมมีสองชนิด

1. ชนิดปอกลอก เอาแต่ได้ ยอมเสียน้อย หวังจะเอาให้มาก
2. ชนิดชวนฉิบหาย โดยฐานะ 4 คือ
   1. คอยเป็นเพื่อนดื่มน้ำเมา
   2. คอยเป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน
   3. คอยเป็นเพื่อนเที่ยวดูการเล่น
   4. คอยเป็นเพื่อนไปเล่นการพนัน

พระไตรปิฎก / ภาค 4 เล่ม 9 / กูฏทันตสูตร
ให้ทางออกในการแก้ปัญหาการติดการพนัน โดยให้แก้ด้วย “การทำเศรษฐกิจให้ดีขึ้น” ไม่ใช่เล่นการพนันเพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะเป็นไปไม่ได้

พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเรื่อง กูฏทันตพราหมณ์ (พราหมณ์ฟันเขยิน)ตอนหนึ่งว่า :

“พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในแคว้นมคธพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ พัก ณ สวนมะม่วง ในบ้านของพราหมณ์ขานุมัตตะ หรือ กูฏทันตพราหมณ์ ซึ่งกราบทูลถามพระพุทธองค์ให้อธิบายเรื่อง ยัญญสัมปทา หรือความพร้อมสมบูรณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ในการบูชายัญ...”
“พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเล่าถึงเรื่องของพระเจ้ามหาวิชิตตะ ผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์ จะทรงทำพิธีบูชามหายัญ ทรงถามความเห็นพราหมณ์ปุโรหิต พราหมณ์ปุโรหิตแนะให้ปราบโจรผู้ร้ายก่อน แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีฆ่า หรือจองจำ เพราะพวกที่เหลือจากถูกฆ่า ก็จะเบียดเบียนในชนบทภายหลัง – มี ตัวตาย ตัวแทน – โดยที่แท้ควรถอนรากโจรผู้ร้าย ด้วยวิธีจัดการทางเศรษฐกิจให้ดี คือแจกพืชแก่กสิกรในชนบทที่อุตสาหะประกอบอาชีพ ให้ทุนแก่พ่อค้าที่อุตสาหะในการค้า ให้อาหารและค่าจ้างแก่ข้าราชการ ให้ทุกคนมีอาชีพมีรายได้ พระราชทรัพย์ก็จะเพิ่มพูน ชนบทก็จะไม่มีเสี้ยนหนาม มนุษย์ทั้งหลายก็จะรื่นเริง อุ้มบุตรให้ฟ้อนอยู่ที่อก ไม่ต้องปิดประตูเรือน”

หลวงพ่อ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) กล่าวไว้ในหนังสือ “พุทธธรรม” ว่า ปัญหาการพนัน แก้ได้ด้วย “ฉันทะ”

“ฉันทะ คือภาวะจิตที่ยินดี พอใจ หากภาวะฉันทะนั้นยังไม่มี ก็ต้องทำให้มี”
“ต้นไม่ที่เหี่ยวแห้ง เด็กที่ผอมโซเสื้อผ้ารุ่งริ่ง คนเจ็บป่วยไม่มีใครดูแลรักษา ขโมย ขโจร มาก การข่มเหงรังแกกัน  การติดยาเสพติด การพนันแพร่หลาย เป็นกระแสอวิชชา ต้องใช้ปัญญาเข้าแก้ มาตัดกระแสอวิชชา ตัดตัณหา”

[จากหนังสือ พุทธธรรม โดย พระธรรมปิฎก ป.อ. ปยุตโต หน้า 510 ]


ศาสนาคริสต์ ที่เกิดหลังพุทธศาสนา 570 ปี สอนในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ว่า:

The Old Testament (King James Version)
Proverbs 13:11
“ Wealth gained by dishonesty be be diminished.
But he who gathers by labour will increase.”
“ความร่ำรวยมั่งคั่งที่ได้มาโดยความไม่ซื่อสัตย์จะลดถอยลง
แต่ผู้ซึ่งใช้แรงงานของตนจะเพิ่มพูนความมั่งคั่งนั้น”[สมเกียรติ อ.]

Proverbs 28:22
“A man with an evil eye hastens after riches, And does not consider that poverty will come upon him.”
“คนผู้ซึ่งมีแววตาอันเป็นบาปหยาบช้าจะพุ่งเข้าหาความมั่งคั่งร่ำรวย และจะไม่คิดว่าความยากจนจะมาเยือนเขา” [สมเกียรติ อ.]

Ecclesiastes 5:10
“He who loves silver (money) will not be satisfied with silver (money), nor he who loves abundance (wealth), 
(will be satisfied ) with increase. his income; that also is vanity.”
“คนผู้รักเงินจะไม่พึงพอใจกับเพียงแค่เงิน, คนผู้รักความมั่งคั่งร่ำรวยก็จะมิมีวันพอใจกับความร่ำรวยมั่งคั่งที่เพิ่มพูนมากขึ้น; นั่นมันคือความหยิ่งยะโสอีกด้วย” [สมเกียรติ อ.]

ศาสนาอิสลาม เกิด 500 ปี หลังศาสนาคริสต์

พระคัมภีร์ อัล กุรอาน (ซูเราะฮ์ ที่ 5  อัล-มาอิดะฮ์ ญุซอ์ที่ 7) บัญญัติเรื่องการพนันไว้ดังนี้ :
อายะฮ์ (วรรค-ตอน) 90
“ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ที่จริงสุราและการพนันและแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายัญ และการเสี่ยงติ้วนั้น เป็นสิ่งโสมม อันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน (ซาตาน) (หมายถึงการชี้นำของมัน แล้วมนุษย์ก็หลงเชื่อ)  ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสีย  เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ”

 อายะฮ์ (วรรค-ตอน) 91
“ที่จริงชัยฏอน (ซาตาน) นั้นเพียงต้องการที่จะให้เกิดการเป็นศัตรูกัน และการเกลียดชังกันระหว่างพวกเจ้า ในสุรา และ การพนันเท่านั้น (คือการดื่มสุรา และ การเล่นการพนัน เพราะทั้งสองนั้นก่อให้เกิดวิวาทกัน และผูกใจเจ็บกัน และมันจะหันเหพวกเจ้าออกจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์และการละหมาด แล้วพวกเจ้าจะยุติไหม?”
(การพนันนั้นก็ทำให้ผู้เล่นมุ่งที่จะได้รับกำไร จึงไม่มีช่องที่รำลึกถึงอัลลอฮ์ และไม่มีเวลาไปทำละหมาด)

หากรัฐบาลของเราจะดึงเราเข้าไปใกล้การพนัน ใกล้ซาตาน เราต้องขัดขืนเพราะเราเป็นผู้มีศาสนา มีศีลธรรมและวัฒนธรรมความเป็นไทย 

    เอาแค่ว่าเราเป็นเพียงผู้มีสามัญสำนึกของความเป็นคนไทยผู้ภาคภูมิในวิถีชีวิตอันสงบงดงามของชนชาติไทย ดำเนินชีวิตที่อบอวลคละเคล้าด้วยพลังธรรมแห่งศาสนาและอำนาจนุ่มนวลทางวัฒนธรรมไทยที่โลกชื่นชมยกย่องถามหา อยากเห็น อยากมาเยือน 
    เราต้องปกป้องประวัติศาสตร์วัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยที่ผ่านมา 800 ปีแล้วให้ยั่งยืนสุนทรีย์สถาพร ปราศจากความเลวร้ายของอบายมุขการพนันบ่อนคาสิโนอย่างเด็ดขาด 
    การต่อต้านไม่ให้ความร่วมมือกับกระบวนการสร้างบ่อนการพนันหรือคาสิโนในราชอาณาจักรไทยอย่างถูกกฎหมาย เป็นเรื่องผิดกฎศาสนา ทำลายวัฒนธรรม และวิถีชีวิตไทย

สมเกียรติ อ่อนวิมล
3 เมษายน 2568

---