----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บันทึกนำ : เมื่อปี พ.ศ. 2546 นิตยสาร HI-CLASS ได้เปิดคอลัมน์ชื่อ "ศิลปะในการใช้ชีวิต | ARTS OF LIVING" ให้ผมเป็นผู้เขียนประจำทุกเดือน บทความเรื่องแรกดังปรากฏข้างล่าง ชื่อ "เกิดมาเป็นชีวิต" จึงเป็นงานเขียนชิ้นแรกของผมในนิตยสารไฮคลาส เป็นการบอกเล่าความคิดเห็นส่วนตัวของผมต่อตัวผมเองในที่สาธารณะ ให้ผู้อื่นได้รับรู้ ซึ่งผมก็คิดว่าจะช่วยให้คนที่เข้าใจผมเป็นอย่างอื่นได้ข้อมูลใหม่และเป็นจริงในมุมมองที่ออกมาจากตัวผมเองโดยแท้ ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของท่านทั้งหลายที่อาจมองชีวิตตัวเองต่างไปจากความเป็นจริงที่ควรจะจริงแท้แน่นอนจริงๆ ชีวิตมนุษย์ย่อมเปลี่ยนแปรไปตามเส้นทางที่เลือกเดิน หรือเลือกที่จะถูกบังคับให้เดิน นั่นคือสัจธรรม. กาลผ่านไป 11 ปี ถึงวันนี้ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ผมก็มิได้เปลี่ยนวิถีแห่งการดำเนินชีวิตไปเท่าใดนัก จึงเห็นว่าข้อคิดคำนึงที่เก่ากว่าทศวรรษยังคงล้าสมัยอยู่ดังเดิม จึงขอนำมาลงพิมพ์ให้อ่านกันอีกครั้งหนึ่ง ณ THAI VISION แห่งนี้ โดยไม่ปรับแก้. แล้วปีใหม่ ปีหน้า ปีพุทธศักราช 2558 ผมจะทบทวนข้อคิดคำนึงถึงชีวิตและงานของตัวเองนี้ใหม่อีกรอบ คิดเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะลงพิมพ์ใหม่ในวันพรุ่งนี้ - 1 มกราคม 2558 - คู่ขนานกันไปกับความคิดเก่านี้. ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศิลปะในการใช้ชีวิต ARTS OF LIVING โดย สมเกียรติ อ่อนวิมล [นิตยสาร HI-CLASS ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546] เกิดมาเป็นชีวิต | BEING A LIVING เมื่อปี พ.ศ. 2533 ผมกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดขณะที่เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิคอินเตอร์คอม มิวนิเคชั่น จำกัด อ่านและร่วมทำข่าว 9 อ.ส.ม.ท. ดังจนนิตยสาร HI-CLASS มาสัมภาษณ์เป็นเรื่องขึ้นปก และบนปกพาดหัวตัวใหญ่ว่า ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล “อีก 10 ปี ผมจะกลับสุพรรณ” ตอนนั้นผมก็คิดว่าชื่อเสียง งาน และเงิน ก็ดูท่าจะดีแล้ว ทำงานเดิมให้หนักๆไปสัก 10 ปี ก็น่าจะซื้อที่ดินปลูกบ้านกลางหมู่ต้นไม้ริมน้ำท่าจีน สร้างทีมงานให้เข้มแข็ง แล้วตัวผมเองจะได้ปลีกตัวมาใช้ชีวิตช่วงอายุ 50 กว่าๆกับธรรมชาติ ดูแลลูกน้องและบริษัทแปซิฟิคฯอยู่ห่างๆ นั่งดูโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและจัดรายการวิทยุ “โลกยามเช้า” จากบ้านหลังน้อยริมแม่น้ำสุพรรณฯ กินพืชผักผลไม้ในสวน อยู่อย่างพอเพียง เหลือใช้บ้างเล็กน้อย แล้วค่อยตายจากโลกนี้ไปอย่างเงียบๆ. กำหนดเผาศพที่วัดวิมลโภคาราม อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีประมาณเมื่ออายุ 80 ปีกว่าๆ มาบัดนี้ผ่านไป 13 ปีแล้วผมก็ยังทำไม่ได้อย่างที่หวัง ผมซื้อที่ดินริมแม่น้ำสุพรรณหรือแม่น้ำท่าจีนได้ 7 ไร่ มีต้นไม้เก่าขึ้นครึ้มเต็มไปหมด ทั้งมะม่วง มะปราง มะกรูด มะไฟ กระท้อน กล้วย ส้มโอ ประดู ตะแบก ไผ่ ฯลฯ นึกว่าจะมีเงินปลูกบ้านได้ ก็ไม่มี ในปี 2539 ผมลาออกจากบริษัทแปซิฟิคฯ มาตั้งบริษัทชื่อเอเชียวิชั่น ทำงานที่ช่อง 11 ก็ล้มเหลวหนี้สินมหาศาล ผมลาออกมาสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจากจังหวัดสุพรรณบุรี ร่างรัฐธรรมนูญอยู่แปดเดือนก็หมดงาน เคว้งคว้างว่างงานอยู่จนปี 2542 มหาวิทยาลัยรังสิตจ้างไปเป็นคณบดีคณะนิเทศศาสตร์อยู่เกือบปีแล้วลาออกหลังจากไปสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2543 จนถึงปัจจุบันก็เป็น “สว.” มาได้สามปี ครึ่งทางพอดี อายุครบ 55 ปี ก็ครึ่งทางชีวิตพอดี หรือค่อนทาง หากจะอยู่ไม่ถึง 100 ปี. ผมสรุปชีวิตตัวเองว่าไม่ประสพความสำเร็จในอาชีพอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่อย่างเดียว เป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตอนที่ HI-CLASS ไปสัมภาษณ์ ก็เพียงแค่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ออกมาทำข่าวโทรทัศน์ก็เพียงแต่มีชื่อเสียงเป็นผู้ประกาศข่าวและนักข่าว ไม่ได้แก้ปัญหาการสื่อสารมวลชน หรือการผลิตข่าวสารเพื่อชาติและสังคมอย่างมั่นคงถาวร แถมความมั่งคั่งและมั่นคงทางเศรษฐกิจการเงินส่วนตัวและครอบครัวก็ไม่มีเลย. เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญก็ได้ร่วมร่างบางวรรคบางมาตราในรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็สร้างความพึงพอใจเป็นการส่วนตัวมากจริงๆเพียงมาตรา 40 มาตราเดียว. เป็นคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ไม่นานพอที่จะทำโครงการใดที่เริ่มไว้ให้เสร็จ มาเป็นสมาชิกวุฒิสภา 3 ปีแล้ว ก็รู้สึกว่าเป็นงานที่ได้แต่คิด ดีแต่พูด ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากบางวรรคบางมาตราในร่างพระราชบัญญัติฉบับต่างๆ งานด้านสื่อสารมวลชนที่สร้างชื่อเสียงให้กับผมมาแต่อดีตนั้น ในปี 2545 ที่ผ่านไปนี้ เป็นปีสุดท้ายที่จะมีสื่อให้ ทำ รายการวิทยุ “โลกยามเช้า” ทำมา 18 ปี ถูกสั่งปิดรายการไปตั้งแต่ต้นปี 2545 รายการเพลงลูกทุ่ง “คุยเฟื่องเรื่องไท” ทำมา 4 ปี ก็ถูกยุบหายไปกับคลื่นลูกทุ่งเวทีไท FM90 ทั้งคลื่น เพื่อเปิด ทางให้กับเพลงฝรั่งของบริษัทอื่น บ้านที่ฝันไว้ว่าจะสร้างที่ริมน้ำสุพรรณฯก็ไม่ได้สร้างเพราะรายได้ลดลงจากเดิมถึง 5 เท่า ไม่ต้องห่วงเรื่องจาน ดาวเทียม หรือรายการวิทยุที่อยากจะจัดจากสุพรรณบุรี ถึงผมจะสรุปชีวิตตัวเองว่าไม่ประสพความสำเร็จในอาชีพอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแม้แต่อย่างเดียว แต่ผมก็สรุปอีก ว่าชีวิตของผมประสพความสำเร็จไม่น้อยในภาพรวมของ “การเป็นชีวิต” ถ้าแยกย่อยเป็นการงานพื้นฐานอาชีพ (กพอ.-ตามชื่อวิชาในชั้นประถมศึกษา) ผมล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะผม ทำงานหลายอย่างไม่เคยถึงระดับสูงสุดแม้แต่อย่างเดียว หากมองภาพรวมของการใช้ชีวิต ผมได้ “ความหลากหลายทางอาชีวภาพ” อย่างที่สุด ใช้ชีวิตมา 55 ปี ทำงานมาแล้ว 5 ประเภท ใน 7 แห่ง ปี 2546 เป็นปีที่ผมหมดงานวิทยุและโทรทัศน์โดยสิ้น แต่ก็กำหนดทางชีวิตไว้ว่าจะหางานอย่างที่ 6 ทำ คืองานเขียนและแปลหนังสือ คอลัมน์ “ศิลปะการใช้ชีวิต” ที่ HI-CLASS ชวนให้เขียนนี้มาประจวบเหมาะกับช่วงชีวิตที่ผันแปรพอดี แม้นานๆจะเขียนสักครั้ง แต่ก็ถือเป็นการปูทางไปสู่งานเขียนที่เป็นรูปเล่มที่ผมกำลังทำอยู่และจะทยอยออกพิมพ์ในปี 2546 นี้ และปีต่อๆไป. ผมต้องการความสุขในการเกิดมา “เป็นชีวิต” อะไรที่คิดว่าเป็นความล้มเหลวในการดำเนินชีวิตอาจเป็นเพราะเรามัวแต่มองส่วนแยกย่อยของการใช้ชีวิต แต่เพียงมิติเดียว มองให้กว้างทั้งหมด ทุกมิติ ทุกส่วน เห็นภาพรวมของการ “เป็นชีวิต” แล้ว ผมพอใจและมีความสุขอย่าง ล้นหลามในการเกิดมา “เป็นชีวิต” บนโลกมนุษย์นี้มาก อยากอยู่ “เป็นชีวิต” ให้ถึง 100 ปีจริงๆ สมเกียรติ อ่อนวิมล 1 มกราคม 2546 |
AUTHOR
สมเกียรติ อ่อนวิมล Somkiat Onwimon (1948 - 20xx) lives in Thailand, studied political science and international relations from The University of Delhi (B.A. & M.A.) and The University of Pennsylvania (Ph.D.). He lectured at Chulalongkorn University, and later became a television news 'n documentary reporter-producer-anchorman. He was elected a member of Thailand's 1997 Constitution Drafting Assembly, elected a senator in 2000, and appointed member of the National Legislative Assembly in 2007. Now at his Pak Chong home, he lives a quiet country life of reading, writing, and thinking. Archives
June 2018
Categories
All
|