ดูพจนานุกรม Oxford English Dictionary ในกรณีนี้อ้างจาก Shorter Oxford English Dictionary (Fifth Edition ปี 2002) ซึ่งเป็นชุดสองเล่มย่อมี 500,000 คำเท่ากับ ⅓ ของ The Oxford English Dictionary ชุดใหญ่สมบูรณ์ที่สุดยาว 20 เล่มปี 1989 คำว่า “context” เป็นคำภาษาอังกฤษรากศัพท์มาจากภาษาละติน “contextus” แปลว่า ‘weave together’ หรือ ‘ถักทอร้อยเรียงเข้าด้วยกันซึ่งต้นฉบับอธิบายว่า:
“The parts or parts immediately preceding or following a passage or word as determining or helping to reveal its meaning; the surrounding structure as determining the the behavior of a grammatical item, speech, sound, etc.; Ambient conditions; a set of circumstances; relation to circumstances.”
ส่วน Webster’s Third New International Dictionary ฉบับเต็มพิมพ์ปี 2002 มี 450,000 คำเป็นพจนานุกรมมาตรฐานสำหรับใช้ในการแข่งขันการสะกดคำที่เรียกว่า “Spelling Bees” ในอเมริกาอธิบายไว้ 6 ความหมายว่า:
“1. The weaving together of words in language; the discourse or writing so produced. 2. The party or parts of a written or spoken passage preceding or following a particular word or group of words and so intimately associated with them as to throw light upon their meaning. 3. The interrelated condition in which something exists or occurs. 4. Coherence in discourse. 5. Things or conditions that serve to date or characterize an article. 6. The fleshy part of the pileus of a mushroom or other pileate fungus as distinguished from the hymenium.”
สงครามระหว่าง Israel กับพวกนักรบ Palestine กลุ่ม Hamas ในดินแดน Gaza ทำให้อธิการบดีมหาวิทยาลัย Harvard ในอเมริกาต้องหลุดจากตำแหน่งก็เพราะคำว่า context นี้เอง สงครามระหว่าง Israel กับ Hamas เริ่มจาการที่ Hamas โจมตีก่อนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้วจากนั้น Israel ก็ตอบโต้กลับและโจมตีทำลาย Gaza ไม่ยอมหยุดจนวันนี้ยังผลให้ชาวปาเลสไตน์ใน Gaza ทั้งนักรบและชาวบ้านทั่วไปตายไปแล้วกว่า 25,000 คนไม่ว่าจะพยายามเจรจาให้ยุติสงครามอย่างไร Israel ก็ไม่ฟังจะเดินหน้าทำลาย Gaza ต่อไปจนกว่าจะไม่มีพวก Hamas เหลืออยู่ ชาวโลกเริ่มเห็นความรุนแรงโดย Israel จนเหมือนกับว่า Israel จะต้องการฆ่าพวก Hamas Palestine แบบล้างเผ่าพันธุ์ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า “genocide” ทำนองเดียวกันกับที่เผด็จการนาซี Hitler แห่ง Germany ทำกับชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่สองทั่วโลกเริ่มประท้วง Israel และเห็นใจ Palestine มากขึ้นที่เรียกร้องให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวอีกรอบก็มีความรุนแรงสุดโต่งโดยมนุษย์ดูจะยังไม่มีหนทางสว่าง ในมหาวิทยาลัย Harvard ก็มีการชุมประท้วงของนักศึกษาที่สนับสนุน Palestine ด้วยนักศึกษากลุ่มใหญ่สนับสนุนปาเลสไตน์เรียกร้องอย่างรุนแรงให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวบ้างเป็นการประท้วงในมหาวิทยาลัยที่มีทั้งนักศึกษาเชื้อสายยิวและอาหรับปาเลสไตน์นักศึกษานานาชาติและนักศึกษาอเมริกันผิวพันธุ์ต่างๆอธิการบดี Harvard ชื่อ Claudine Gay ซึ่งเป็นสตรีผิวดำถูกเชิญไปให้การตอบข้อซักถามในกรรมาธิการรัฐสภาท่านถูกถามว่าที่ท่านปล่อยให้นักศึกษามหาวิทยาลัย Harvard ชุมนุมประท้วงรุนเรงถึงกับเรียกร้องบังคับข่มขู่นักศึกษาเชื้อยิวให้มีการฆ่าหมู่หรือ genocide บ้างแม้จะเป็นเพียงการประท้วงเพียงแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่แรงจัดแต่ก็มิใช่การใช้ความรุนแรงฆ่าฟันอะไรจริงๆสมาชิกวุฒิสภาในฐานะกรรมาธิการท่านหนึ่งถามอธิการบดี Claudine Gay ว่าที่ท่านอธิการบดีปล่อยให้มีการต่อต้านยิวรุนแรงถึงกับเรียกร้องด้วยคำว่า genocide หรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นั้นมันผิดกฎระบียบการชุมนุมในมหาวิทยาลัยหรือไม่ท่านอธิการบดีตอบว่า
“It depends on the context” “มันขึ้นอยู่กับบริบท”
ก็เลยโดนกรรมธิการกระหน่ำจนอยู่ไม่ได้ในที่สุดท่านอธิการบดีก็ถูกกดดันโดยสภามหาวิทยาลัยและสภาวะแวดล้อมเรื่องอื่นด้วยโดยเฉพาะเรื่องที่ท่านถูกตรวจสอบพบว่ามีการลอกเลียนงานวรรณกรรมผู้อื่นมาแอบอ้างในงานดุษฎีนิพนธ์ปริญญาเอกและงานวิชาการอื่นๆของตนเองโดยไม่อ้างอิงราวกับว่าเป็นงานเขียนต้นฉบับของตนเองแต่คำว่า ‘context’ หรือ ‘บริบท’คือคำที่ทำลายท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัย Harvard ไปอย่างไร้ปราณี อธิการบดีมหาวิทยาลัย Pennsylvania ก็ประสพชตากรรมแบบเดียวกันต้องลาออกไปด้วยประโยค “It depends on the context.” เช่นเดียวกัน
“บริบท” หรือ “context” นั้นดูจะเป็นคำที่ช่วยชีวิตช่วยหาทางออกให้กับทางตันยามคับขันถ้าอธิบายเป็นแต่มันก็เป็นคำที่โหดร้ายทำลายคนได้ถ้าพยายามจะใช้บริบทอธิบายแล้วอธิบายไม่ได้หรือไม่ได้โอกาสอธิบายในกรณีอธิการบดี Harvard University และ University of Pennsylvania เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนแม้จะดูไกลตัวจากเราชาวไทยและท่านอธิการบดีทั้งสองก็มิได้โอกาสอธิบายว่าในบริบทที่ควรเข้าใจให้การประท้วงต่อต้านยิวในมหาวิทยาลัยนั้นทำได้ตามระเบียบมหาวิทยาลัยนั้นอย่างไรพอจะตอบก็ถูกนักการเมืองตัดบทอนาตนก็เลยถูกตัดขาดเพราะ “context” หรือ “บริบท” ไม่ถูกอธิบาย