Timaeus and Critias
The Atlantis Dialogue Plato [Plato, Timaeus and Cririas, พิมพ์ใน Plato Selected Myths, Oxford World’s Classics, Oxford University Press, New York, 2009, 208 หน้า, ISBN-10: 019955255X, ISBN-13: 978-0199552559] Atlantis คือดินแดนลึกลับมหัศจรรย์ที่มนุษย์บนโลกเคยได้ยินมาแต่โบราณกาล ไม่มีใครทราบว่า Atlantis มีจริงหรือไม่ รุ่งเรือง มั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ และยิ่งใหญ่อย่างนักคิดนักเขียน นักประวัติศาสตร์ และนักเดินทางผู้เพ้อฝันเขียนถึงจริงหรือ? จะงดงามดั่งที่ศิลปินจินตนาการให้ได้เห็นกันมากมายนับไม่ถ้วนอย่างนั้นหรือ? ปัจจุบัน การค้นหา Atlantis ยังคงดำเนินต่อไปแม้ ณ วินาทีนี้ จินตนาการเพ้อฝันถึง Atlantis นั้นเริ่มต้นจาก Plato เมื่อ 2500 ที่แล้ว ความจริงเกี่ยวกับ Atlantis ที่พิสูจน์ได้มีเพียงอย่างเดียว คือเป็นความจริงที่ว่า Plato นักปราชญ์ชาวกรีก ได้กล่าวถึง Atlantis และบันทึกไว้เป็นเอกสารอันเป็นบทสนทนา ระหว่างอาจารย์ Socrates กับลูกศิษย์สามคน ชื่อ Timaeus, Critias และ Hermocrates บทสนทนานี้เรียกว่า “Timaeus and Critias” หรือ “The Atlantis Dialogue” สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย Oxford พิมพ์รวมอยู่ในหนังสือ Oxford World’s Classics ตั้งชื่อว่า “Plato Selected Myths” หรือ “ตำนานลึกลับบางเรื่องของ Plato” อันเป็นบทสนทนา ที่ Critias เล่าให้ Socrates ฟังเกี่ยวกับเรื่อง Atlantis Critias เริ่มเล่าว่า ปู่ทวดของเขาชื่อ Dropides ได้ยินเรื่อง Atlantis มาจาก Solon กวีเอก, นักปราชญ์ และ นักกฎหมาย แห่งนครรัฐ Athens ในครั้งนั้น..หลังจาก Solon ได้ไปรับรู้เรื่อง Atlantis มาจากนักปราชญ์ใน Egypt...จากนั้น Dropides ก็เล่าให้ปู่ของเขา ซึ่งมีชื่อว่า Critias ฟัง...จากนั้นปู่ Critias ก็เล่าให้หลานซึ่งก็ชื่อ Critias เหมือนกันได้ฟังอีกทอดหนึ่ง...Critias ผู้เป็นหลาน จึงจำมาเล่าให้ Socrates ฟัง ดังปรากฏในหนังสือ บทสนทนาของ Plato เล่มนี้ Plato เขียนว่า Critias เล่าเรื่อง Atlantisให้ Socrates ฟังดังต่อไปนี้: “...there is one above all which stands out for its importance and courage…there was an island in front of the strait which I‘ve heard you say, your people call the Pillars of Heracles. The Island was bigger than both Asia and Libya combined” “กาลครั้งหนึ่ง มีดินแดนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญเหนือแผ่นดินใดๆ...เป็นเกาะใหญ่ตั้งอยู่ในมหาสมุทร หน้าช่องแคบที่พวกท่านเรียกชื่อว่า เสาแห่ง Heracles ดินแดนนี้เป็นเกาะที่ใหญ่กว่า Asia และ Libya รวมกัน” นี่คือข้อความแรกเริ่มที่มนุษย์บนโลกได้ยินเกี่ยวกับ Atlantis จากคำบอกเล่าของ Critias ต่อหน้า Socrates Critias เล่าต่อไป: “On this island of Atlantis great and remarkable dynasty had arisen, which ruled the whole island, many of the other islands, and parts of the mainland too. They also governs some of the lands here inside the strait too---Libya up to Egypt and Europe up to Etruria.” “บนเกาะแห่ง Atlantis นี้ มีราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ก่อกำเนิดขึ้นเป็นผู้ปกครองรัฐ ซึ่งรวมอาณาเขตหมดทั้งเกาะ Atlantis เกาะอื่นๆรอบๆอาณาบริเวณ ขึ้นไปบนถึงบางส่วนของแผ่นดินใหญ่ของทวีปด้วย ราชวงศ์ Atlantis ยังได้ปกครองหมู่เกาะในช่องแคบอีกด้วย---ปกครอง Libya ไปจรด Egypt ปกครอง Europe ไปถึง Etruria” Etruria คือดินแดนประเทศ Italy และ The Pillars of Heracles คือช่องแคบ Gibraltar ในแผนที่โลกปัจจุบัน หากคำนวณเวลาของประวัติศาสตร์โลก หาก Atlantis มีอยู่จริง ถึงวันนี้ Atlantis ก็จะมีอายุประมาณ 10,500 ปี เป็นอย่างน้อย “…the island by itself provided them with most necessities of life.” Atlantis นั้นอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก มีเกือบหมดทุกอย่างที่ชีวิตชาว Atlantis ต้องการ “…they had everything, solid and fusible.” “ทุกอย่างบรรดามี แร่ธาตุในดินทั้งที่เป็นเพชรนิลจินดาและโลหะล้ำค่า” ป่าไม้ สัตว์ป่า รากไม้ หน่อไม้ ไม้ดอกหอมอบอวล พืชพันธุ์ธัญญาหาร ข้าวบาเล่ย์ ข้าวสาลี มะกอก องุ่น มะนาว ผลไม้เหลือคณานับ ศูนย์กลางนครหลวงสร้างเป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบเป็นวงแหวนสามวง โบสถ์ วิหาร ปราสาทราชวัง ทั้งหมดสร้างอยู่กลางแผ่นดินที่ขุดทำเป็นเกาะกลางมีน้ำทะเลล้อมรอบเป็นคลองวงแหวน กว้าง 90 เมตร ลึก 30 เมตร ยาวเกือบ 9 กิโลเมตร ต่อด้วยวงแหวนที่เป็นแผ่นดินและน้ำสลับกันไป โดยมีคลองกว้างเชื่อมต่อกับทะเล “They drew their water from the two springs…Any water which overflowed was channeled to the grove of Poseidon, where all the various species of trees grew to be beautiful and extraordinary tall thanks to the fertility of the soil...” มหานครรัฐ Atlantis รับน้ำดื่มน้ำใช้จากแหล่งน้ำพุร้อนและน้ำพุเย็นสองแห่ง ไหลเข้าสู่เมืองตามระบบการชลประทานของมหานคร น้ำที่เกินความต้องการจะถูกผันเข้าสวนแห่งเทพเจ้า Poseidon ผู้เนรมิต Atlantis สวนแห่ง Poseidon นี้ดารดาษไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดพันธุ์ สวยสดงดงามและสูงใหญ่เป็นพิเศษ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของดิน “The mountains that surrounded the plains were celebrated in those days for their number, size and beauty; there are no mountains today which come close to them in these respects.” นครหลวง Atlantis ตั้งบนที่ราบติดทะเล มีเทือกเขาสูงใหญ่สวยงามสลับซับซ้อนมากมายอยู่โดยรอบ ทั้งขนาด จำนวน และความงาม ไม่มีขุนเขาใดในโลกปัจจุบันที่จะเทียบได้กับขุนเขาแห่ง Atlantis นี่คือ Atlantis ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ ยิ่งใหญ่ งดงาม จะเป็นดินแดนในฝัน นครในตำนาน หรืออาจจะเป็น รัฐในประวัติศาสตร์จริงๆ ดังที่ Plato เขียนเล่าไว้ในบทสนทนาที่ Plato เขียนก่อนถึงแก่อสัญกรรมไม่นาน ในบทสนทนานี้ Critias เล่าว่า “Poseidon gained the Island of Atlantis as his province and he settled there the children borne for him by a mortal woman in a certain part of the island” “Poseidon ได้ครอบครองเกาะ Atlantis แล้วตั้งรกรากถิ่นฐานปกครองที่นั่นเป็นแว่นแคว้นของตน ได้มนุษย์สตรีนางหนึ่งบนเกาะเป็นภรรยาให้กำเนิดบุตรหลายคน” Poseidon เป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลตามตำนานกรีซโบราณ ซึ่ง Plato ใช้เป็นชื่อของพระราชาพระองค์แรกผู้ก่อตั้งนครรัฐ Atlantis กลางมหาสมุทร Atlantic หน้าช่องแคบ Gibraltar ในแผนที่โลกปัจจุบัน เรื่อง Atlantis ที่ Plato เขียนถึงนี้มีชื่อเทพเจ้าเกี่ยวข้องเพียง Poseidon พระองค์เดียว ทำให้นักวิเคราะห์ประวัติศาสตร์และนักวิชาการประวัติศาสตร์ Atlantis หรือ Atlantologists ส่วนใหญ่เชื่อว่าทำให้เรื่อง Atlantis มีมูลแห่งความจริง บนเกาะ Atlantis นี้ Evenor ผู้สามี กับ Leucippe ผู้ภรรยา ให้กำเหนิดบุตรสาวชื่อ Cleito เมื่อมาก่อร่างสร้างดินแดนใหม่ Poseidon ได้ Cleito เป็นภรรยา Cleito จึงได้ที่ดินเป็นที่ราบเชิงเขา ขุนเขาสวยงามล้อมรอบ ปราสาทราชวังบนเกาะกลางน้ำที่เป็นวงล้อมรอบสามชั้น กว้างใหญ่ไพศาลเป็นเมืองหลวงของนครรัฐ Atlantis ต่อมา Poseidon กับ Cleito ได้บุตรชายแฝดรวมทั้งหมด ห้าคู่ แฝดคู่แรกสุด คนพี่ตั้งชื่อว่า Atlas เป็นกษัตริย์แห่งนครรัฐ Atlantis ศูนย์กลางแห่งอำนาจและความเจริญรุ่งเรืองทั้งอาณาบริเวณ แฝดผู้น้อง ชื่อGadeirus ได้ครองนครบริวารชื่อ Gadeira ส่วนแฝดผู้เป็นน้องอีกสี่คู่ ชื่อ Ampheres กับ Evaemon; Mneseus กับ Autochthon; Elasippus กับ Mestor; Azaes กับ Diaprepes ต่างก็ได้ดินแดนในปกครองเป็นของตนเอง โดยขึ้นกับมหานครรัฐ Atlantis ณ ส่วนกลาง สำหรับการปกครอง Atlantis ถือเป็นต้นแบบการปกครองรัฐทั้งหมด Atlas เป็นกษัตริย์ปกครองรัฐ บุตรชายคนโตของกษัตริย์คือมกุฎราชกุมารผู้มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้เป็นกษัตริย์พระองค์ต่อไป รัฐอื่นๆอีก 9 รัฐที่ปกครองโดยน้องๆอีก 9คน จะมีประเพณีการปกครองคล้ายกัน กษัตริย์แต่ละองค์มีพระราชอำนาจเหนือประชาชน คำสั่ง คำตัดสินพระทัยใดๆของกษัตริย์ คือกฎหมายสูงสุด ในหมู่กษัตริย์ทั้งสิบพระองค์มีความสัมพันธ์กันคล้ายสหพันธรัฐ แต่รัฐ Atlantis เป็นศูนย์กลางของอำนาจ ซึ่งเหนือกว่ารัฐริวาร ของบรรดาน้องๆทั้ง 9 ถือเป็นรูปแบบการปกครองตามแบบแผนประเพณีเดิมที่ริเริ่มโดย Poseidon แต่กาลก่อน สืบทอดต่อมาโดยบรรพบุรุษรุ่นแรก เพื่อมิให้ลำเอียงเข้าข้างเลขคู่หรือเลขคี่ ทุก 4 ปี และทุก 5 ปี กษัตริย์ทั้ง 10 องค์จะมาประชุมร่วมกันที่ Atlantis ณ วิหารแห่ง Poseidon กลางเกาะมหานคร Atlantis การประชุมสุดยอดนี้ก็เพื่อหารือเรื่องราชการงานปกครองที่สำคัญ ทดสอบและตรวจสอบกระบวนการปกครองที่เป็นธรรม ลงโทษผู้กระทำผิดแบบแผนประเพณีและข้อตกลงระหว่างนครรัฐทั้งสิบตามที่เจ้าชายทั้ง 10 ได้สาบานพระองค์เอาไว้เป็นกฎหมายจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรบนแผ่นทองแดง และดื่มเหล้าไวน์จากถ้วยทองคำในพิธีบูชายันต์ต่อหน้ากองไฟ ในบรรดาหลักปฏิบัติสำคัญบางประการ กษัตริย์แห่ง Atlantis ยึดหลักการกครองและการปฏิบัติพระองค์ดังต่อไปนี้ : 1. They should never take up arms against one another กษัตริย์ทั้งสิบแคว้นจะไม่จับอาวุธทำสงครามระหว่างกัน 2. They should all resist any attempt to overthrow the royal family in any city ไม่ล้มล้างราชวงศ์ทั้งหลายไม่ว่าจะที่เมืองใด 3. They should collectively debate any decisions that were to be made about all matters such as warfare, while giving all authority to the descendants of Atlas จะมีการเจรจาหารือกันก่อนการตัดสินใจนโยบายสำคัญเช่นการประกาศสงคราม แต่ก็ มอบอำนาจเด็ดขาดแก่กษัตริย์ราชวงศ์ Atlas 4. No king should have the right to put any of his relatives to death, unless half of the ten agreed with his decision จะไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดแห่งรัฐใดในทั้งสิบรัฐจะไปปลงพระชนม์กษัตริย์พระองค์อื่น เว้นแต่มีมติถึงครึ่งหนึ่งให้ทำได้ ด้านการป้องกันประเทศ ให้ชายชาว Atlantis ทุกคนจากที่ราบชนบทเข้ารับราชการทหาร โดยได้ที่ดินทำกินคนละหนึ่งแปลง ขนาดกว้าง 10 x 10 Stades หรือ 3,154,176 ตารางเมตร หรือประมาณ 1,971 ไร่ เป็นการตอบแทน เมื่อได้ที่ทำกินรวม 60,000 คน กับที่ทำกิน 60,000 แปลง แล้วทหารทุกคนต้องมีหน้าผลิต 1 ใน 6 ส่วน ของรถเทียมม้าที่ใช้ในการสงคราม ซึ่งกองทัพ Atlantis มีรถเทียมม้าเพื่อการสงครามทั้งหมด 10,000 คัน แต่ละคันมีม้าสองตัว มีทหารขับขี่ประจำรถ และมีม้าคู่สำรองอีก 1 คู่ ทหาร 6 นายจะต้องร่วมกันผลิตรถม้าสงรามให้ครบทีม ส่วนกองทัพเรือ Atlantis มีเรือ 1,200 ลำ สำหรับประชาชนพลเมืองชาว Atlantis ที่อยู่รอบนอกนครหลวง ก็อยู่กันเป็นชุมชนหมู่บ้านแบบเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงตัวเองอย่างอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่งยั่งยืน “There were in the mountains many wealthy villages with their rural populations; rivers, lakes, meadows kept every species of tame and wild creature adequately supplied with food; and there were plenty of timber, of various types, which was more than sufficient for any kind of task for every occasion.” “มีหมู่บ้านที่มั่งคั่งมากหมายในเขตภูเขา ในชนบท บรรดาแม่น้ำ ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ห้วย หนอง คลอง บึง มีอาหารอุมดมสมบูรณ์มากพอสำหรับหล่อเลี้ยงชีวิตสรรพสัตว์ ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า ในป่ามีไม้ใช้ได้ ฃมากมายเหลือเฟือหลายประเภท พอเพียงสำหรับการงานทุกโอกาส” ที่ Atlantis ชาวบ้านทำนาปีละสองครั้ง หน้าหนาวได้น้ำจากฝน หน้าแล้งได้น้ำจากคลองชลประทาน” “For many generations, they obey the laws and respected the divine element in themselves. Because the principles they had were true and thoroughly high-minded, and because they reacted with self-possession and intelligence to the vicissitudes of life and to one another, they looked down on everything except virtue, counted their prosperity as trivial, and easily bore the burden, so to speak, of the mass of their gold and other possessions. They were not made drunk by the luxury their wealth afforded them and so they remain in control of themselves and never stumbled. As sober men do, they saw clearly that even prosperity is increased by the combination of mutual friendship and virtue---and that wealth declines and friendship is destroyed by materialistic goals and ambitions” “นานหลายชั่วอายุคน กษัตริย์ผู้ปกครองราชอาณาจักร และพลเมืองชาว Atlantis ดำเนินชีวิตอย่างมีอารยะธรรม เคารพกฎหมาย เคารพธาตุแท้ของความเป็นผู้ถือมั่นในความสูงค่าที่ฝังอยู่ในตนเอง ด้วยว่าหลักการที่ยึดมั่นนั้นแน่แท้ถูกต้อง และแสดงถึงความเป็นผู้มีจิตใจสูงส่ง เพราะชาว Atlantis เคารพคุณค่าของภูมิปัญญาอันสูงยิ่งของตนเอง ที่เข้าใจในความผันแปรในธรรมชาติของมนุษย์แต่ละคน ชาว Atlantis จะไม่ใยดีต่อทุกสิ่งอย่าง ยกเว้นแต่ในเรื่องคุณธรรม ถือว่าทรัพย์สินเงินทองและความมั่งคั่งร่ำรวยเป็นเรื่องไร้แก่นสาร การสะสมทองคำและทรัพย์สินอื่นรังแต่จะเป็นภาระ ชาว Atlantis ไม่ไหลหลงมัวเมาในความมั่งคั่งฟุ้งเฟ้อที่มีอยู่ ดังนั้นจึงควบคุมตัวเองได้ไม่ไหวหวั่น ดั่งผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ ชาว Atlantis มองเห็นแจ้งชัดว่าองค์ประกอบระหว่างมิตรภาพและคุณธรรมต่างหากที่ก่อให้เกิดความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น---และความมั่งคั่งจะเสื่อมถอยลง คราใดที่มิตรภาพถูกทำลายโดยความทะยานอยากได้ใคร่มีทางวัตถุกลายเป็นเป้าหมายแห่งชีวิต” Atlantis มั่นคง รุ่งเรือง สงบ ร่มเย็น เปี่ยมด้วยคุณธรรม นาน...หลายชั่วอายุคน ........จนถึงวันหนึ่ง …..Plato เล่าว่า…….ความศักดิ์สิทธิ์ทรงค่าในหัวใจของชาว Atlantis เริ่มจางลง กิเลสตัณหาในธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์เข้ามาแทนที่ ทนความเย้ายวนของความมั่งคั่งร่ำรวยไม่ได้ ในที่สุด “They were infected with moral greed and power” “ชาว Atlantis ก็ถูกความทะยานอยากในอำนาจเข้าครอบครองเหนือพลังคุณธรรม” “Some time later appalling earthquakes and floods occurred, and in the course of a single, terrible day and night the whole fighting force of your city sank all at once beneath the earth, and the island of Atlantis likewise sank beneath the sea and vanished.” “ในกาลต่อมา เกิดวินาศภัยแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ น้ำท่วมท้นเหนือธรณี ในเพียงชั่ววันกับคืนหนึ่งเท่านั้น กองทัพกรีซกับ Atlantis ที่กำลังรบพุ่งทำลายกันอยู่ก็ถูกสูบกลืนลงใต้แผ่นดิน Atlantis ทั้งเกาะจมดิ่งหายลับลงไปใต้ทะเล.ในฉับพลัน” Atlantis อยู่ที่ไหน? มนุษย์ที่หลงเหลืออยู่บนโลกปัจจุบันเชื่อว่า Atlantis นั้นเป็นเรื่องจริง ตามที่ Plato บันทึกไว้. และมนุษย์...ยังตามค้นหา Atlantis ต่อไป… มนุษย์ไม่หยุดยั้งที่จะค้นหา Atlantis ที่ล่มสลายจมหายไปใต้มหาสมุทร เมื่อ 10,500 ปีที่แล้ว. แต่มนุษย์ยังไม่เคยคิดที่จะสร้าง Atlantis ขึ้นมาใหม่เลย. 2 มกราคม 2555 |