(63) ‘The Capitalists owned everything in the world, and everyone else was their slave. They owned all the land, all the houses, all the factories, and all the money. If anyone disobeyed them they could throw him into prison, or they could take his job away and starve him to death. When any ordinary person spoke to a capitalist he has to cringe and bow to him, and take off his cap and address him as “sir.” ’ “พวกนายทุนเป็นเจ้าของทุกอย่างในโลกนี้แล้วคนอื่นๆก็คือพวกทาสของนายทุนพวกนายทุนเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมดเป็นเจ้าของบ้านทั้งปวงเป็นเจ้าของโรงงานทุกหนแห่งและครอบครองเงินทั้งระบบหากใครไม่เชื่อฟังนายทุนก็อาจจะถูกโยนเข้าคุกได้หรือไม่ก็จะถูกไล่ออกจากงานแล้วปล่อยให้อดอยากหิวโหยไปจนตายเวลาที่คนธรรมดาจะพูดกับนายทุนก็จำจะต้องโค้งคำนับถอดหมวกออกแล้วเรียกนายทุนว่าฯพณฯท่าน” Winston Smith อ่านประวัติศาสตร์ระบบทุนนิยมจากตำราประวัติศาสตร์เด็กโลกที่ยืมมาจากMrs. Pearson แล้วก็เริ่มลอกข้อความจากหนังสือบันทึกลงสมุดบันทึกส่วนตัว โลกสังคมและรัฐของWinston Smith ณวันที่4 เมษายนปีค.ศ. 1984 เปลี่ยนไปอย่างที่จำอะไรไม่ได้ชัดเจนถูกต้อง หลังสงครามโลกครั้งใหญ่ระเบิดปรมาณูทำลายทุกสิ่งอย่างอังกฤษถูกยึดครองโดยสหรัฐอเมริกากลายเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของอภิมหารัฐเรียกว่า Oceania. เรียกชื่อดินแดนอังกฤษเดิมว่า จังหวัด, Airstrip One มีLondon เป็นเมืองสำคัญ, มีผู้ปกครองรัฐรู้จักกันอย่างหวาดผวาในนาม Big Brother หรือ BB
ทุกหนทุกแห่งในอภิมหารัฐหรือ Super State Oceania “The Big Brother Is Watching You” ท่านผู้นำผู้ยิ่งใหญ่จับตามองคุณอยู่ทุกฝีก้าว ด้วยภาพposters ขนาดยักษ์ของท่านผู้นำ Big Brother ปิดทุกมุมเมืองและจอภาพโทรทัศน์หรือ “Telescreen” ที่ใช้ฉายภาพยนตร์ข่าวสารโฆษณาบังคับให้เชื่อติดตั้งทุกหนแห่งดุจเงาตามตัวทั้งในที่สาธารณะและในอาคารบ้านเรือนจอภาพโทรทัศน์Telescreen นี้ทำหน้าที่ทั้งฉายภาพทั้งถ่ายภาพและบันทึกเสียงประชาชนที่เดินผ่านทุกคนประชาชนไม่สามารถปิดจอtelescreen นี้ได้แม้อาจจะหรี่เสียงได้บ้างเล็กน้อยก็ตามชีวิตความลับความเป็นส่วนตัวอิสระและเสรีภาพในอภิมหารัฐOceania ไม่มี Oceania แม้หลังสงครามนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ก็ยังทำสงครามไม่หยุดหย่อนกับอภิมหารัฐอีกสองรัฐในโลกคือ Eurosia และ Eastasia ประชากรในOceania ทุกคนถูกครอบงำและกำหนดชะตาชีวิตโดยรัฐของผู้นำเผด็จการคลั่งอำนาจมีคนยากจนส่วนใหญ่ของประเทศที่เรียกว่าพวกProles ที่ถูกปล่อยให้อยู่อย่างเสรีไม่ถูกควบคุมแต่เป็นเสรีภาพเยี่ยงสัตว์ Big Brother และกลไกของรัฐจะปล่อยให้พวกProles ผู้ยากจนใช้ชีวิตเยี่ยงสัตว์เร่ร่อนไร้จุดหมายชีวิตความหมกมุ่นกับสื่อลามกที่รัฐผลิตออกมามอมเมาพร้อมๆกับlottery หรือหวยบนดินทำให้คนจนอยู่กับความเพ้อฝันที่ไร้โอกาสเป็นจริงไปวันหนึ่งๆ
(73) “Yes, a seven ‘as won! I could pretty near tell you the bleeding number. Four oh seven, it ended in.”
“The Lottery, with its weekly pay-out of enormous prizes, was the one public event to which the proles paid serious attention. It was probable that there were some millions of proles for whom the Lottery was the principal if not the only reason for remaining alive….the Lottery, which was managed by the Ministry of Plenty…(indeed everyone in the Party was aware) that the prizes were largely imaginary. Only small sum were actually paid out.”
“ใช่แล้วงวดนี้ออกเลขเจ็ดฉันบอกแกได้เลยว่าเลขท้ายต้องออกสี่กับเจ็ด...Lottery ซึ่งมีรางวัลดูมหาศาลทุกสัปดาห์เป็นเหตุการณ์ที่พวกคนจนเอาใจใส่จริงจังและเป็นไปได้ที่พวกproles ผู้ยากจนหลายล้านคนยึดถือถ้าไม่เป็นที่พึ่งเดียวก็เป็นที่พึ่งหลักของการมีชีวิตอยู่...Lottery นี้บริหารจัดการโดย Ministry of Plenty กระทรวงการเศรษฐกิจสมบูรณ์หรือกระทรวงการคลังและษมาชิกพรรคทุกคนรู้ดีว่ารางวัลใหญ่จริงๆแล้วเป็นเรื่องเพ้อฝันไม่มีจริงรางวัลที่ให้ก็เพียงน้อยนิดเท่านั้น”
อันที่จริงแต่เริ่มแรกGeorge Orwell อันเป็นนามปากกาของ Eric Blair ตั้งใจจะให้ชื่อนวนิยายเรื่องนี้ว่า “The Last Man in Europe” แต่กลับมาใช้เลขชื่อปี1984 อันเป็นเลขกลับของปี1948 ปีที่เขียนเรื่องนี้โดยใช้เลขปี1984 เป็นสัญลักษณ์ของอนาคต แม้ปี1984 ผ่านไปแล้วแต่คำทำนายอนาคตของGeorge Orwell แม่นยำยิ่งนัก รัฐเผด็จการอำนาจรัฐที่เรียกว่าระบอบรัฐอำนาจหรือที่เรียกว่าAuthoritarian State เกิดขึ้นในเวลาต่อมาในประเทศจีนและสหภาพโซเวียตและคำเตือนต่อว่าจะเกิดรัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จโดยรัฐที่เรียกว่า Totalitarian State จะเกิดขึ้นตามมา
Big Brother ฯพณฯท่านผู้นำรัฐใช้ Ministry of Truth หรือกระทรวงกิจการความจริงจัดการข่าวสารศิลปะและความบันเทิงครอบงำประชาชน, Ministry of Plenty กระทรวงกิจการอันอุดม จัดการระบบเศรษฐกิจที่ผู้ครองอำนาจเท่านั้นที่จะกอบโกยได้, Ministry of Peace กระทรวงการสันติภาพ ทำสงครามกับอภิมหารัฐคู่แข่งคือEurasia และ Eastasia, และ Ministry of Love กระทรวงกิจการแห่งความรัก บริหารจัดการปิดกั้นความรักของหญิงชายมิให้เบ่งบานเป็นเสรีใช้การผสมเทียมเป็นเครื่องมือในการสร้างประชากรกลุ่มใหม่
ในOceania นี้ Winston บอกกับ Julia คู่รักที่ต้องอยู่กันอย่างหลบซ่อนว่า
(113) “There is no such thing as happiness, that the only victory lay in the far future, long after you were dead” “ไม่มีสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความสุขชัยชนะถ้าจะมีก็อยู่ในอนาคตอันห่างไกลอนาคตหลังจากความตาย”
(7, 17, 87) WAR IS PEACE, FREEDOM IS SLAVERY, IGNORANCE IS STRENGTH สงครามคือสันติภาพ, เสรีภาพคือการเป็นทาส, ความโง่เขลาคือพลัง
นี่คือคำขวัญของฯพณฯท่านผู้นำ Big Brother แห่งอภิมหารัฐ Oceania
1984 โดย George Orwell เป็นหนังสืออันดับสี่ที่บรรณารักษ์ห้องสมุดอังกฤษ และ Peter Boxhall ในหนังสือ1001 Books ลงความเห็นว่า ทุกคนควรอ่านก่อนตาย หนังสือยอดนิยมตลอดกาลอันดับที่8 ใน100 เล่มของชาวอังกฤษจาการสำรวจของBBC