Ayre Sound
H.M.S. The Beagle
ค่ายพักแรม Buenos Aires
|
Charles Darwin กับ สตรี Argentina สวยที่สุดในโลก ที่ว่าสาวอาร์เจนตินาสวยที่สุดในโลกนั้น ผมมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันได้ เป็นหลักฐานที่บันทึกไว้ 178 ปีมาแล้ว (นับจากปี 1839 ที่พิมพ์หนังสือ ถึงปี 2017) และผู้ที่บันทึกนี้ก็เป็นหนุ่มนักธรรมชาติวิทยาน่าเชื่อถือได้ทั้งเป็นหนุ่ม และทั้งเป็นนักวิทยาศาสตร์ ย่อมไม่มีอารมณ์มาทำลายเหตุผลเป็นแน่แท้ เรื่องนี้ผมขออ้างอิงจากหนังสือ "THE VOYAGE OF THE BEAGLE" (1839) โดย Charles Darwin หลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัย Cambridge แล้ว Charles Darwin หนุ่มชาวอังกฤษ ในวัย 22 ปี ได้ร่วมเดินทางสำรวจธรรมชาติไปกับเรือ H.M.S. The Beagle ในฐานะนักธรรมชาติวิทยา เดินทางท่องทะเลไปรอบโลกนาน 5 ปี โดยเริ่มออกเดินทางจากท่าเรือ Devonport ของอังกฤษ วันที่ 27 ธันวาคม ปี ค.ศ.1831 วันเวลาผ่านไปสองปี Charles Darwin กับเรือ The Beagle ก็มาเทียบท่าที่ประเทศอาร์เจนตินา แล้วขึ้นบกสำรวจธรรมชาติ ดิน หิน พืช และ สัตว์ อย่างตื่นเต้นเร้าใจและสัมบุกสัมบัน Charles Darwin บันทึกไว้ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ.1833 ระหว่างการเดินทางสำรวจทางบก ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร ในดินแดนอาร์เจนตินา ตอนหนึ่ง [Chapter VIII] ว่า: “เราเดินทางผ่านหุบเขา Las Vacas นอนค้างแรมที่บ้านชาวอเมริกาเหนือคนหนึ่ง ... รุ่งเช้าขี่ม้าต่อ ไป …Punta Gorda พยายามตามดูเสือ Jaguar ซึ่งมีรอยตีนใหม่ๆมากมายให้เห็นเป็นทาง ... แม่น้ำ Uruguay เอ่อล้น ใส ไหลแรง มากกว่า เมื่อเทียบกับแม่น้ำ Parana ที่ไหลมาบรรจบกัน เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องบริเวณที่แม่น้ำ Uruguay อันสวยใส มาพบกับแม่น้ำ Parana ที่ขุ่นโดยโคลนตม นี้ ก็ปรากฏเป็นแม่น้ำสองสีชัดเจน” “ตกเย็น เราเดินทางต่อไปตามเส้นทางสู่เมือง Mercedes ริมฝั่งแม่น้ำ Negro พอถึงเวลาค่ำเราไปขอนอนพักบ้านแรกที่เราพบ เป็นบ้านของเศรษฐีราชาที่ดินที่ใหญ่ที่สุดในเขตนี้ หลานของเจ้าของไร่ หรือที่เรียกว่า Estancia เป็นคนดูแลสถานที่เป็นทหารยศร้อยเอกหนีทัพมาจาก Buenos Ayres ดูตามสถานภาพแล้วก็น่าแปลกว่า เรื่องที่สนทนากันคืนนั้นดูจะเป็นที่อัศจรรย์ใจยิ่งนัก เขาทั้งสองแสดงความรู้สึกทึ่งที่ทราบว่าโลกที่เราอยู่นี้เป็นรูปทรงกลม ปฏิกิริยาเช่นนี้ก็คาดเดาได้ล่วงหน้า แต่เขาก็ไม่อยากเชื่อว่าหากขุดหลุมลงไปลึกมากๆ ก็จะไปโผล่อีกฟากตรงข้ามของแผ่นดินโลก” “นายทหารยศร้อยเอกพูดกับเราในตอนท้ายที่สุดว่า มีคำถามที่อยากถามมากๆอยู่คำถามหนึ่ง ซึ่งเขาจะขอบคุณเป็นอย่างสูงหากเราจะตอบด้วยความจริงใจ ให้หมดเปลือกไปเลย ผมเองเริ่มใจสั่น ไม่ทราบว่าจะเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบเชิงวิทยาศาสตร์ที่ลึกล้ำขนาดไหน ไม่รู้จะตอบได้หรือเปล่า แต่เขากลับถามว่า ‘เราเห็นด้วยหรือไม่ที่ว่าผู้หญิง Buenos Ayres นั้นสวยที่สุดในโลก ผมเลยตอบคำถามเหมือนกับคนที่เพิ่งพ้นภัยอย่างโล่งอกว่า ’แน่นอน ผู้หญิง Buenos Ayres นั้นสวยที่สุดในโลก แน่นอนเลย’ ” “แล้วเขาก็แถมอีกคำถามว่า พวกผู้หญิงที่อื่นๆในโลก จะมีใครที่ไหนบ้างที่ใช้หวีเสียบผมขนาดใหญ่เท่าของหญิง Buenos Ayres ผมก็ตอบให้เขาสบายใจว่าไม่มีหรอก แล้วพวกเขาก็ปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด” นายทหารผู้เป็นเพื่อนหลานเจ้าของบ้านถูกใจในคำตอบจนยอมสละเตียงนอนใหญ่ให้ Charles Darwin ได้นอนอย่างสบาย ส่วนตัวเขาเองเอาผ้าไปปูนอนบนพื้น การเดินทางสำรวจธรรมชาติในอเมริกาใต้ช่วงนี้ บางคืน Charles Darwin ก็ต้องนอนกลางดินกินกลางป่าเขา แต่สำหรับคืนนี้ คือคืนวันที่ 20 พฤศจิกายน 1833 ด้วยเหตุที่คุยกันถูกคอ และยอมรับเป็นมติเอกฉันท์ในหมู่ชายหนุ่มว่า สตรีชาว Buenos Ayres แห่ง Argentina นั้นสวยงามที่สุดในโลก Charles Darwin จึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในบ้านของคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยในชีวิต ตั้งแต่วันที่เรือ H.M.S. Beagle ออกเดินทางจากอังกฤษ ในวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1831 มาถึง ต้นเดือนมิถุนายน ค.ศ.1834 Charles Darwin สำรวจธรรมชาติฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ ทั้งในทะเล และบนบก รวม 2 ปี 5 เดือน รวมเวลาทั้งหมดตลอดการเดินทางสำรวจธรรมชาติรอบโลกของ Charles Darwin กับเรือ HMS Beagle จากวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1831 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ.1836 เท่ากับ 4 ปี 8 เดือน 5วัน ชื่อหนังสือที่ Charles Darwin เขียนบันทึกการเดินทาง แรกเริ่มตั้งชื่ออย่างเป็นทางการในการพิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1839 ว่า: “THE JOURNAL OF RESEARCHES INTO THE GEOLOGY AND NATURAL HISTORY OF THE VARIOUS COUNTRIES VISITED BY H.M.S. BEAGLE, UNDER THE COMMAND OF CAPTAIN FITZROY, R.N. FROM 1832 TO 1836” หรือแปลเป็นไทยว่า “บันทึกงานวิจัย ว่าด้วยเรื่องธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ธรรมชาติของประเทศต่างๆ ที่เรือหลวง BEAGLE แห่งสมเด็จพระราชินีเดินทางไปสำรวจภายใต้การบังคับการของกัปตัน FITZ ROY แห่งราชนาวี จากปี 1832 ถึง 1836” พิมพ์ในปี 1839 ในเวลาต่อมา สำนักพิมพ์ยุคหลังนิยมใช้ชื่อย่อสั้นว่า "THE VOYAGE OF THE BEAGLE" หลังจากนั้นอีก 20 ปี จึงพิมพ์หนังสืออีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดในโลกว่าด้วยทฤษฎีวิวัฒนาการ คือหนังสือชื่อ “On the Origin of Species” [ชื่อจริงและชื่อเต็มของ "On the Origin of Species" ก็ยาวกว่านี้อีกเช่นกัน ลองค้นหาดูจะพบว่าการตั้งชื่อหนังสือสมัยก่อนนิยมตั้งกันยาว ทำให้เข้าใจได้ทันทีที่เห็นชื่อบนปก แค่เพียงชื่อก็กระจ่างแล้วว่าเรื่องราวทั้งเล่มเป็นอย่างไร] Charles Darwin เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย Cambridge ในปัจจุบันนี้ งานของ Charles Darwin ทั้งหมดในห้องสมุดมหาวิทยาลัย Cambridge จัดให้เป็นมรดกทางภูมิปัญญาของมนุษยชาติ (public domain) คนทั้งโลกสามารถเข้าไปอ่านและนำมาอ่านได้ฟรีทุกเรื่อง ที่ http://darwin-online.org.uk/ ภาพประกอบ: โดยนักเขียนภาพสองคนที่สลับกันเดินทางไปกับเรือ The Beagle เพื่อเขียนภาพประกอบโดยเฉพาะ (สมัยนั้นยังไม่มีกล้องถ่ายรูป) 30 มกราคม 2560 |
Buenos Aires